WINNER มีกำไรปกติ 4Q66 ที่ 39 ลบ. เพิ่มขึ้น 126%QoQ ตามผลฤดูกาล และเพิ่มขึ้น 40%YoY แรงหนุนจากยอดขายลูกค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตดีและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นหลังมีต้นทุนนำเข้าสินค้าลดลงจากบาทแข็งค่า หนุนให้ปี 2566 มีกำไรปกติเติบโต 9.6%YoY ดีเกินคาด อย่างไรก็ดีระยะสั้นมองยังขาดปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น อีกทั้งการเติบโตของกำไรปี 2567 ไม่เด่น และ Upside ไม่จูงใจต่อการลงทุน โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ปี 2567 ที่หุ้นละ 2.50 บาทแต่ยังมีจุดเด่นที่จ่ายปันผลดี จึงคงเรทติ้ง Neutral เพื่อรับปันผล โดยคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 5.8% 4Q66 และปี 2566 กำไรดีกว่าคาด WINNER รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ราว 39 ลบ. หดตัว 158%YoY แต่หากไม่รวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าของค่าความนิยมในบริษัทย่อยซึ่งบันทึกใน 4Q65 ราว 94 ลบ. พบว่า 4Q66 กำไรปกติจะเติบโต 126%QoQ ตามผลฤดูกาล (เข้าสู่ High Season ของบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลรื่นเริงสำคัญและธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง) และเติบโต 40%YoY ซึ่งมีแรงหนุนจาก 1) ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 3%YoY โดยแม้ยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อการบริโภคหดตัว 6%YoY หลังมีคำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มขนมขบเคี้ยวและอาหารแช่แข็งลดลง แต่ถูกชดเชยได้ด้วยรายได้รับจ้างผลิตสินค้าดูแลและบำรุงผิว และยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่ออุตสาหกรรม (สารเติมแต่ง, สารเสริมคุณสมบัติ) ที่เติบโต 2%YoY และ 42%YoY ตามลำดับ และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 20.7% จาก 20.5% ใน 4Q65 จากมีต้นทุนนำเข้าสินค้าลดลงจากเงินบาทแข็งค่า จึงทำให้ปี 2566 WINNER มีกำไรปกติ 114 ลบ. เติบโต 9.6%YoY ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 16% ประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2566 หุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.5% (XD 12 มี.ค. และจ่ายเงินปันผล 10 พ.ค. 67) เมื่อบวกกับ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วจากกำไร 1H66 หุ้นละ 0.07 บาท จะมีเงินปันผลจ่ายรวมปี 2566 ที่หุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงปีละ 5.8% ปรับเพิ่มประมาณการ เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 4Q66 บริษัทได้มีการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Non-Food ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งคาดจะหนุนให้ยอดขายสินค้าอาหารเพื่อการบริโภคและเพื่ออุตสาหกรรมให้แก่ลูกค้ากลุ่ม HoReca (สัดส่วน 50% ของรายได้) ยังเติบโตสดใส YoY ขณะที่ปีนี้บริษัทยังคงมีแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ปีละ 60-70 SKUs และขยายช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อตอบสนองและขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เราจึงปรับเพิ่มประมาณการ โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2567 WINNER จะมีกำไรปกติ 115 ลบ. เติบโตเล็กน้อย 1.4%YoY คงเรทติ้ง “NEUTRAL” เนื่องจากมองว่าระยะสั้นยังขาดปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น อีกทั้งการเติบโตของผลดำเนินงานปี 2567 และ Upside ยังไม่จูงใจต่อการลงทุน ทั้งนี้เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ปี 2567 ที่หุ้นละ 2.50 บาท (อิงค่าเฉลี่ย PER 13x เช่นเดิม) และคงเรทติ้ง Neutral เพื่อรับปันผล โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2567 หุ้นละ 0.13 บาท คิดเป็น Div. Yield ปีละ 5.8% (บริษัทมีจุดเด่นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องมา 12 ปีนับจากเข้าซื้อขายใน ตลท. เมื่อปี 2556-ปัจจุบัน) ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล WINNER นำเข้าสินค้าเพื่อจำหน่ายราว 88% ของยอดซื้อรวม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้การขนส่งทางเรือเป็นหลัก ศักยภาพทำกำไรจึงมีความเสี่ยงด้านความไม่แน่นอนของต้นทุนนำเข้า หากเงินบาทอ่อนค่า และ/หรือ ค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลของลูกค้าที่มาใช้บริการ (S) รวมทั้งการมีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นของบริษัทเกิน 50% (G) |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก WINNER240301_T |