ฐานข้อมูลรายเดือน - กรกฎาคม 2566

ภาพรวมตลาด มิ.ย. – แนวโน้มตลาด ก.ค.

คาด SET ในเดือน ก.ค. ยังมองผันผวนในกรอบ จากปัจจัยเดิม คือ ความไม่แน่นอนใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปัจจัยภายในประเทศด้านการเมืองจากการจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และ 2) ปัจจัยต่างประเทศ ด้านนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งยังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในปีนี้ โดย SET มองผันผวนในกรอบ โดยกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1530 และ 1570 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากปรับตัวลง มองกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1460 และ 1440 จุด ตามลำดับ ซึ่งคาดมี downside จำกัด ด้วย Valuation ที่น่าสนใจ

พรีวิว 2Q66 กลุ่มธนาคาร คาดกำไรเพิ่มขึ้น YoY ลดลง QoQ เราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q66 ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 6% QoQ (กำไรจากเครื่องมือทางการเงินลดลง) แต่จะเพิ่มขึ้น 7% YoY (NII เพิ่มขึ้นเนื่องจาก NIM ดีขึ้น) โดยคาดว่า BBL จะรายงานกําไร 2Q66 เติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 56%YoY และ 8%QoQ สําหรับแนวโน้มกำไรของกลุ่มธนาคารปี 2566 คาดว่าจะเติบโต 13% โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 4% NIM จะขยายตัว 23 bps ส่วน credit cost จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6 bps ขณะที่ non-NII จะอยู่ในระดับทรงตัว และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงเล็กน้อย

เดือน มิ.ย.. ต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 5 ที่ 9.1 พันลบ. จากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 3.3 หมื่นลบ. โดยเพิ่มสัดส่วนการถือครองในหุ้นกลุ่มธนาคาร ปิโตรฯ ICT แต่ลดสัดส่วนการถือครองในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก อสังหาฯ ขณะที่ performance ของดัชนี MSCI Thailand แย่กว่า MSCI APAC ex. Japan ในช่วง 1, 3 และ 6 เดือนที่ผ่านมา แต่ดีกว่าในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ในส่วนของประมาณการกำไรฯ ปี 2566 ของ SET นั้น consensus มีการปรับลง 1.78% เช่นเดียวกับฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ที่ปรับลง 3.26%, 2.14%, 1.41%, 1.12% และ 0.58% ตามลำดับ ตรงข้ามกับอินโดนีเซียที่ปรับขึ้น 0.22%

เดือน ก.ค. เริ่มไตรมาส 3...คงกลยุทธ์การลงทุนแบบ defensive & selective ประเมิน SET Index มีความผันผวนสูงเนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะเติบโตต่ำ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนใน 2Q66 ที่จะประกาศออกมาจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน กลยุทธ์ของเราคือ การตั้งรับด้วยหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือกำไรทำจุดต่ำสุดไปแล้ว มีอำนาจในการกำหนดราคาสูง และได้รับ ผลกระทบค่อนข้างจำกัดจากนโยบายต่างๆ นอกจากนี้ เรายังคงแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นวัฏจักรและหุ้นที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดที่มีมูลค่าสูง

ประเด็นสำคัญในเดือนนี้ ในประเทศ : 5 ก.ค. – อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.) ; 7 ก.ค. - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.) ; 27 ก.ค. – ยอดส่งออก นำเข้า ดุลการค้า (มิ.ย.) ต่างประเทศ : 3 ก.ค. - ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิต (มิ.ย.) ของสหรัฐ, ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิต (มิ.ย.) ของจีน ; 6 ก.ค. – ดัชนี ISM PMI ภาคบริการ (มิ.ย.), การจ้างงานภาคเอกชน (มิ.ย.) ของสหรัฐ ; 7 ก.ค. – การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (มิ.ย.) และอัตราว่างงาน (มิ.ย.) ของสหรัฐ ; 12 ก.ค. – อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.) ของสหรัฐ ; 13 ก.ค. – ดัชนีราคาผู้ผลิต (มิ.ย.) ของสหรัฐ ; 17 ก.ค. – GDP 2Q66 ของจีน, 25-26 ก.ค. – ประชุม Fed ; 27 ก.ค. – ประชุม ECB