ภาพรวมตลาด ต.ค. – แนวโน้มตลาด พ.ย.
|
||
คาด SET ในเดือน พ.ย. เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ โดยกรอบล่างบริเวณแนวรับ 1356 และ 1343 จุด ตามลำดับ มองเป็นจุดฟื้นตัว ด้วยภาวะ oversold ทางเทคนิค และมูลค่าทางพื้นฐานที่น่าสนใจ โดย SET บริเวณ 1350 จุดลงไป เทรดที่ P/E ระดับเพียง 13.5 เท่า ทำให้คาดดัชนีจะมีแรงซื้อกลับ บริเวณแนวรับดังกล่าว ส่วนกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1410 และ 1437 จุด ตามลำดับ จากปัจจัยลบที่ต้องติดตาม ทั้งความรุนแรงในตะวันออกกลาง ความกังวลเงินเฟ้อและผลตอบแทนพันธบัตรที่สูง รวมถึงท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่ยังคงดอกเบี้ยสูงต่อเนื่อง ยังเป็นปัจจัยกดดันดัชนีอยู่
SET เดือน ต.ค. ปัจจัยลบถาโถมโหมกระหน่ำ ทำดัชนีร่วงต่ำสุดในรอบ 3 ปี เป็นอีกเดือนที่ตลาดหุ้นไทยปรับลงตลอดแทบทั้งเดือน กดดันจากทั้งปัจจัยลบในประเทศ หลัง ธปท. กังวลเศรษฐกิจไทยระยะยาวจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงหลุด 37 บ./ดอลลาร์ ขณะที่ Bond Yield พุ่งขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งนโยบาย Digital Wallet ที่เลื่อนไป เม.ย.-พ.ค. 67 และปัจจัยลบต่างประเทศจากสงครามในตะวันออกกลางอาจมีผลทางอ้อมต่อการส่งออกยานยนต์และจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย ส่งผลให้ดัชนีหลุด 1400 จุด ต่ำสุดในรอบ 3 ปี
เดือน ต.ค. ต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 9 ที่ 1.57 หมื่นลบ. จากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 2.20 หมื่นลบ. โดยในเดือนนี้กระแส fund flow ไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกแทบทุกตลาด กล่าวคือ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ราว 0.37, 0.41, 0.16, 0.46, 0.12, 4.41 และ 2.15 พันล้านเหรียญตามลำดับ ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยไปแล้วกว่า 4.77 พันล้านเหรียญ รองจากไต้หวันที่ขายสุทธิไปกว่า 6.59 พันล้านเหรียญ ขณะที่เกาหลีใต้ยังมีสถานะเป็นซื้อสุทธิราว 4.16 พันล้านเหรียญ
SET มีโอกาสรีบาวด์แต่ upside จำกัด เป็นโอกาสสะสมลงทุนระยะยาว มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวได้บ้าง จากคาดแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวและของสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง แต่คาด Upside จะยังถูกจำกัด จากปัจจัยลบที่ต้องติดตาม ทั้งความรุนแรงในตะวันออกกลาง ความกังวลเงินเฟ้อและผลตอบแทนพันธบัตรที่สูง รวมถึงท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่ยังคงดอกเบี้ยสูงต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q66 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector เรามอง SET ที่ปรับลงเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานดีใน 3 กลยุทธ์ลงทุน ดังนี้ 1) หุ้น Undervalued ซึ่งราคาเข้าเขต oversold และมีพื้นฐานดี Valuation ไม่แพง 2) หุ้นที่คาดผลประกอบการดีต่อเนื่องใน 4Q66 (+YoY, +QoQ) 3) หุ้นที่จ่ายปันผลสูง (Yield Play) โดยคาดให้ Div. Yield เกินปีละ 4%
ประเด็นสำคัญในเดือนนี้ในประเทศ : 6 พ.ย. - อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.) ; 10 พ.ย. – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.) ; 20 พ.ย. – GDP 3Q66 ; 28 พ.ย. - ยอดส่งออก-นำเข้า (ต.ค.) ; 29 พ.ย. – ประชุม กนง. ต่างประเทศ : 1 พ.ย. - ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิต (ต.ค.), การจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.) ของสหรัฐ, การประชุม Fed ; 3 พ.ย. - ดัชนี ISM PMI ภาคบริการ (ต.ค.), การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน (ต.ค.) ของสหรัฐ ; 14 พ.ย. – อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.) ของสหรัฐ ; 15 พ.ย. – ดัชนีราคาผู้ผลิต (ต.ค.), ยอดค้าปลีก (ต.ค.) ของสหรัฐ ; 29 พ.ย. – GDP 3Q66 (ครั้งที่ 2) ของสหรัฐ
|
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม INVX Databook_November2023_T
PDF Click INVX Databook_November2023_E