Price Pattern คือ รูปแบบการเรียงตัวของกราฟแท่งเทียน เกิดเป็นรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมของราคาในอดีต หากราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ราคาอาจมีแนวโน้มปรับลงหรือปรับขึ้น
Price Pattern คือ รูปแบบการเรียงตัวของกราฟแท่งเทียน เกิดเป็นรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมของราคาในอดีต หากราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ราคาอาจมีแนวโน้มปรับลงหรือปรับขึ้น Price Pattern แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
รูปแบบการกลับตัวของราคา (Reversal Price Pattern) เป็นรูปแบบการเปลี่ยนแนวโน้ม อาทิ เปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น หรือเปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง ตัวอย่าง รูปแบบการกลับตัวของราคา
Double Top กราฟปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 2 ครั้ง แล้วไม่ผ่าน เกิดเป็นภูเขา 2 ลูก (M-Shape) หากราคาทะลุแนวรับ Neckline (เส้นนอน) บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มกลับตัวลง
Double Bottom กราฟปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 2 ครั้ง แล้วไม่หลุด เกิดเป็นลักษณะกราฟภูเขากลับหัว 2 ลูก (W-Shape) หากราคาทะลุผ่าน Neckline (เส้นนอน) บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มกลับตัวขึ้น
Triple Top กราฟปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 3 ครั้ง แล้วไม่ผ่าน เกิดเป็นภูเขา 3 ลูก หากราคาทะลุแนวรับ Neckline (เส้นนอน) บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มกลับตัวลง
Triple Bottom กราฟปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 3 ครั้ง แล้วไม่หลุด เกิดเป็นลักษณะภูเขากลับหัว 3 ลูก หากราคาปรับขึ้นผ่าน Neckline (เส้นนอน) บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มกลับตัวขึ้น
Head and Shoulders กราฟปรับตัวขึ้น และอยู่ในลักษณะ ไหล่-หัว-ไหล่ หากราคาทะลุแนวรับ Neckline (เส้นนอน) บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มกลับตัวลง
Inverse Head and Shoulders กราฟปรับตัวลง และอยู่ในลักษณะไหล่-หัว-ไหล่แบบกลับหัว หากราคาทะลุแนวต้าน Neckline (เส้นนอน) บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มกลับตัวขึ้น
รูปแบบแบบต่อเนื่อง (Continuous Price Pattern) เป็นรูปการพักตัวของราคาเพื่อเตรียมตัว ที่จะเคลื่อนตัวต่อเนื่องในทิศทางเดิม เช่น กราฟราคาปรับตัวขึ้นและพักตัวในกรอบสามเหลี่ยมเพื่อปรับขึ้นต่อ
Triangle (Breakout ด้านบน) กราฟปรับตัวขึ้นและพักตัวแกว่งออกข้างในกรอบสามเหลี่ยม หากราคาทะลุแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมด้านบน บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
Triangle (Breakout ด้านล่าง) กราฟปรับตัวลงและพักตัวแกว่งออกข้างในกรอบสามเหลี่ยม หากราคาทะลุแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมด้านล่าง บ่งบอกว่ากราฟมีแนวโน้มปรับตัวลง
นักลงทุนสามารถใช้ Price pattern ในการวิเคราะห์และตัดสินใจซื้อขายได้โดยการดูแนวโน้มของตลาดและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา ตัวอย่างเช่น หากพบรูปแบบ Double Bottom อาจเป็นสัญญาณให้ซื้อหุ้น
การใช้ Price pattern มีข้อจำกัดและความเสี่ยง นักลงทุนควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ และไม่ควรพึ่งพา Price pattern เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน