DCA Funds รวมกองทุนสำหรับการ DCA ในระยะยาว

การลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) หรือการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนด เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ทำได้ง่าย และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว

 

ซึ่งจากสถิติย้อนหลัง การลงทุนแบบ DCA ใน iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ที่อ้างอิงดัชนี S&P 500 เป็นระยะเวลา 10 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ย 12.01% ต่อปี

 

นอกจากนี้การลงทุนแบบ DCA ยังมีประโยชน์ดังนี้

1. ลดความผันผวน ด้วยการกระจายการลงทุน ช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนตามสภาวะตลาด
2. สร้างวินัยการออมในระยะยาว ผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
3. ลงทุนตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า โดยไม่ต้องกังวลกับการเฝ้าหรือจับจังหวะตลาด
4. เงินน้อยก็ทำได้ สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ด้วยเงินหลักพัน

เพื่อส่งเสริมการสร้างวินัยการลงทุน InnovestX ได้คัดเลือก 4 กองทุนชั้นนำที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว เหมาะสำหรับการลงทุนแบบ DCA เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

กองทุนหุ้นโลก (Global Equity Fund)

1. กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเศรษฐกิจประเทศใดประเทศหนึ่ง
2. ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของบริษัทชั้นนำในแต่ละภูมิภาค เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และตลาดเกิดใหม่
3. เหมาะกับการลงทุนระยะยาว เพื่อสร้างพอร์ตที่เติบโตอย่างมั่นคงตามเศรษฐกิจโลก

กองทุน: KKP PGE-H

• ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF (ACWI) โดยอ้างอิงดัชนี MSCI ACWI ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ทั่วโลก
• iShares MSCI ACWI ETF จึงเปรียบเสมือนการลงทุนในหุ้นมากกว่า 2,000 บริษัทจาก 47 ประเทศทั่วโลกในกองทุนเดียว
• iShares MSCI ACWI ETF ใช้นโยบายการลงทุนแบบ Passive ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการบริหารต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

 

กองทุนหุ้น S&P 500 (US Large-Cap Fund)

1. ลงทุนใน 500 บริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
2. ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีนวัตกรรมสูง
3. มีประวัติการให้ผลตอบแทนดีในระยะยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติบโตไปกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

กองทุน: K-US500X-A(A)

• ลงทุนในกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF (IVV) โดยอ้างอิงดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของหุ้นชั้นนำขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ
• iShares Core S&P 500 ETF กระจายลงทุนในหุ้น 500 บริษัท ครอบคลุม 11 อุตสาหกรรมของสหรัฐฯ และมักถูกใช้เป็นเครื่องสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของสหรัฐฯ
• iShares Core S&P 500 ETF ใช้นโยบายการลงทุนแบบ Passive ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการบริหารต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

 

กองทุนหุ้นเทคโนโลยี (Tech Fund)

1. มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Apple, Microsoft, Nvidia และ Amazon
2. ได้รับอานิสงส์จากเมกะเทรนด์ เช่น AI, Cloud, และ Digital Economy
3. เหมาะกับนักลงทุนที่รับความผันผวนได้บ้าง เพื่อแลกกับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในระยะยาว

กองทุน: SCBNDQ(A)

• ลงทุนในกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF (QQQM) โดยอ้างอิงดัชนี Nasdaq 100 ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของหุ้นชั้นนำขนาดใหญ่ (โดยไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ของสหรัฐฯ
• Invesco NASDAQ 100 ETF กระจายลงทุนในหุ้น 100 บริษัท โดยเน้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก จึงมักถูกใช้เป็นเครื่องสะท้อนนวัตกรรมและการเติบโตของบริษัทเทคฯ ชั้นนำระดับโลก
• Invesco NASDAQ 100 ETF ใช้นโยบายการลงทุนแบบ Passive ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการบริหารต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

 

กองทุนทองคำ (Gold Fund)

1. เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเกิดวิกฤตในตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจโลก
2. ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และการอ่อนค่าของค่าเงิน
3. เสริมความสมดุลให้พอร์ต DCA โดยช่วยกระจายความเสี่ยงจากหุ้นที่มีความผันผวนสูง

กองทุน: UOBSG - H

• ลงทุนในกองทุนหลัก SPDR Gold Shares (GLD) โดยอ้างอิงดัชนีราคาทองคำในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
• SPDR Gold Shares มีการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง และเป็นหนึ่งในผู้ที่มีทองคำไว้ในครอบครองมากที่สุดในโลก
• SPDR Gold Shares ถูกออกแบบมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการถือครองเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง กองทุนยังมีนโยบายการลงทุนแบบ Passive มีค่าธรรมเนียมในการบริหารต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

 

คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์