1. ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรงเมื่อวันศุกร์
2. OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังผลิต 547,000 บาร์เรล/วัน เดือนหน้า
3. การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด
4. ทรัมป์ปลดหัวหน้า BLS หลังข้อมูลจ้างงานต่ำสุดตั้งแต่โควิด
5. อินเดียยังไม่หยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย แม้ทรัมป์วิจารณ์รุนแรง
6. สหภาพแรงงาน Boeing หยุดงานประท้วงครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี
7. SET อนุมัติให้หุ้นการบินไทย (THAI) กลับมาซื้อ-ขาย อีกครั้ง
8. ครม. ไทยจัดการประชุมนัดพิเศษให้ “ทีมไทยแลนด์” หารือเกี่ยวกับภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
04 August 2025
1. ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงแรง ตามแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ร่วงแรงเมื่อวันศุกร์ ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 ปรับตัวลง 1.6% และ 2% ตามลำดับ หลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐสะท้อนการว่างงานเพิ่มขึ้นและการจ้างงานชะลอตัว ทำให้นักลงทุนคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนก.ย. และบางส่วนคาดอาจลดถึง 50bps อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีร่วง แตะ 4.2% ราคาน้ำมันลดลงหลัง OPEC+ ตกลงเพิ่มกำลังการผลิต ส่วนทองคำทรงตัว
2. OPEC+ อนุมัติเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วัน ปิดฉากมาตรการลดกำลังผลิตที่เริ่มปี 2023 ก่อนกำหนด 1 ปี เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด ส่งผลให้ราคาน้ำมัน Brent ขยับลง 0.4% แตะ 69.38 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณ 1.66 ล้านบาร์เรล/วันที่ถูกระงับไว้ยังไร้ความชัดเจนว่าจะกลับเข้าสู่ตลาดหรือไม่ โดยจะทบทวนอีกครั้ง 7 ก.ย. ขณะที่ Goldman Sachs และ JPMorgan คาดราคาน้ำมันอาจลดลงใกล้ 60 ดอลลาร์ในปีนี้ หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและซัพพลายสหรัฐเพิ่มขึ้น
3. การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ใน ก.ค. 2568 เพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และได้ปรับลดการเพิ่มขึ้นของจ้างงานใน มิ.ย. และ พ.ค. ลงเหลือ 1.4 และ 1.9 หมื่นตำแหน่ง จากที่เคยรายงานที่ 1.47 และ 1.25 แสนตำแหน่ง และอัตราว่างงานใน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.2% สะท้อนภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ
4. ปธน. ทรัมป์ปลด Erika McEntarfer หัวหน้าสำนักสถิติแรงงาน (BLS) หลังรายงานการจ้างงานชะลอตัวรุนแรง ทำตลาดร่วงแรง และกล่าวหาว่ามีอคติทางการเมือง ขณะเดียวกัน Adriana Kugler ผู้ว่าการเฟดประกาศลาออก เปิดโอกาสให้ทรัมป์ตั้งคนใหม่ซึ่งอาจสนับสนุนการลดดอกเบี้ย นักลงทุนเร่งคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนก.ย. โดยผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปีร่วงเกือบ 30bps เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สร้างแรงหนุนต่อคาดการณ์ผ่อนคลายนโยบายการเงินปลายปีนี้
5. แหล่งข่าวเผย อินเดียยังไม่ได้สั่งการให้โรงกลั่นหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แม้ปธน. ทรัมป์เพิ่งวิจารณ์กรณีซื้อพลังงานและยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย พร้อมขึ้นภาษีนำเข้า 25% และขู่เพิ่มโทษเพิ่มเติม รัฐบาลอินเดียเพียงให้โรงกลั่นวางแผนจัดหาน้ำมันจากแหล่งอื่น หากรัสเซียหยุดส่งมอบ โดยอินเดียยังมองว่าการนำเข้าขึ้นกับราคาตลาดและความคุ้มค่า ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรัสเซียทางทะเลรายใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นราวหนึ่งในสามของการนำเข้าทั้งหมด โดยประเด็นความตึงเครียดนี้อาจ กดดัน Sentiment ต่อตลาดหุ้นอินเดียในระยะสั้น
6. สมาชิกสหภาพแรงงานกว่า 3,200 คนที่โรงงานด้านการป้องกันประเทศของ Boeing ในเซนต์หลุยส์ลงมติปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่ แม้มีข้อเสนอเพิ่มค่าแรง 20% และปรับเงินสมทบกองทุนเกษียณ โดยประท้วงหยุดงานตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ การหยุดงานครั้งนี้กระทบสายการผลิตเครื่องบินรบ F-15, T-7, ขีปนาวุธ และชิ้นส่วน Boeing 777X ซึ่งคิดเป็นราว 30% ของรายได้บริษัท แม้ผู้บริหารยืนยันมีแผนรองรับและประเมินผลกระทบต่ำกว่าการหยุดงานโรงงานเชิงพาณิชย์ในซีแอตเทิลเมื่อปีที่แล้ว
7. การบินไทยกลับมาซื้อ-ขายเป็นวันแรก สถิติที่ผ่านมาทั้งหมด 6 บริษัท A5 SMPC NIPPON MDX THL TGPRO พบว่าให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1 เดือนหากซื้อที่ราคาเปิดเท่ากับ 11% และมีค่ากลางของผลตอบแทนที่ 3% แต่ผลตอบแทนจะเป็นลบหากซื้อราคาปิดของการซื้อขายวันแรก
8. ครม. จัดการประชุมนัดพิเศษให้ “ทีมไทยแลนด์” นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องไทยถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ในอัตรา 19% รวมถึงข้อเสนอต่างๆ ที่ไทยให้กับสหรัฐฯ โดยข้อเสนอจะยังไม่มีผลผูกพันในทันที และทั้งสองฝ่ายจะหารือลงในรายละเอียดต่อไป เช่น รายละเอียดของสินค้าสหรัฐฯ ที่ไทยจะทำเข้า และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ Rule of Origins
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Factory Orders MoM ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. คาดว่าจะออกมาที่ -6.0% จากก่อนหน้าที่ 8.2%