Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 16 ก.ย. 2568

16 Sep 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. S&P 500 ทะลุ 6,600 จุด บอนด์ยีลด์ร่วง ตลาดคาดเฟดหั่นดอกเบี้ยพุธนี้

2. สหรัฐฯ–จีนบรรลุกรอบข้อตกลง TikTok ปูทางโทรคุยตรง Trump–Xi ศุกร์นี้

3. เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในวงกว้าง หนุนคาดการณ์ออกมาตรการกระตุ้นเพิ่ม

4. ไทยเล็งเก็บภาษีซื้อขายทองคำ หวังชะลอเงินบาทแข็ง หลังส่งออก–ท่องเที่ยวถูกกดดัน

5. จีนชี้ Nvidia ละเมิดกฎหมายผูกขาดจากดีล Mellanox เพิ่มแรงกดดันการค้ากับสหรัฐฯ

6. วุฒิสภาสหรัฐฯ รับรอง “สตีเฟน มิแรน” ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทรัมป์ เข้าร่วมบอร์ดเฟด

7. ส.อ.ท. เสนอ 5 ข้อเร่งด่วนต่อรัฐบาล รับมือภาษีสหรัฐฯ–พลังงานแพง–บาทแข็ง

8. คณะทำงานปฏิรูปตลาดหุ้นไทย เปิดเผยร่างมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุน ดันความเชื่อมั่น

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 16 ก.ย. 2568

 

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
16 September 2025

 

1. ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.5% ปิดเหนือ 6,600 จุด ทำสถิติสูงสุดใหม่ นำโดยหุ้นเมกะแคป Tesla พุ่งแรงหลัง Elon Musk ซื้อหุ้นเพิ่ม $1 พันล้าน ขณะที่ Alphabet แตะมูลค่า $3 ล้านล้าน Nasdaq 100 บวกต่อเนื่องยาวนานสุดตั้งแต่ปี 2023 นักลงทุนหนุนความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันพุธ และอาจส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อไป บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ลดลงสู่ 4.04% ดอลลาร์อ่อนค่ากดดัน ส่วนทองคำพุ่ง 1% ปิด $3,681/ออนซ์ น้ำมัน WTI +1% ปิด $63.32/บาร์เรล บิตคอยน์อ่อน 0.4% ปิด $115,336

 

2. เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุ “กรอบความเข้าใจร่วม” เพื่อให้ TikTok ดำเนินงานต่อในสหรัฐฯ โดยรมว.คลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ระบุว่าเป็นแนวทางให้เปลี่ยนโครงสร้างสู่การถือครองโดยนักลงทุนอเมริกัน ด้านรองรมว.พาณิชย์จีนย้ำว่ามีความเห็นพ้อง แต่จีนจะไม่ยอมสละหลักการ ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ยืนยันว่าจะโทรคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงวันศุกร์นี้ ถือเป็นการติดต่อโดยตรงครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทั้งนี้ยังไม่ชัดว่าข้อตกลงจะสอดคล้องกับกฎหมายความมั่นคงสหรัฐฯ ที่บังคับใช้ต้นปีหรือไม่ แต่หากไร้ดีล TikTok การพบกัน Trump–Xi ช่วง APEC เกาหลีใต้สิ้นเดือนหน้าอาจถูกยกเลิก

 

3. ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนสิงหาคมของจีนออกมาอ่อนกว่าคาด โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมโตเพียง 5.2% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ยอดค้าปลีกชะลอเหลือ 3.4% และการลงทุนสินทรัพย์ถาวร 8 เดือนแรกโตเพียง 0.5% แย่สุดนับจากปี 2020 ภาคอสังหาฯ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอ่อนแรงต่อเนื่อง สะท้อนแรงกดดันเชิงโครงสร้างมากกว่าปัจจัยชั่วคราว นักวิเคราะห์เตือน GDP Q3 อาจชะลอใกล้ 5% และ Q4 มีความเสี่ยงพลาดเป้าหมายรัฐบาลที่ 5% หากไม่มีมาตรการใหม่ ด้านบอนด์ยีลด์ 30 ปีร่วงสู่ 2.17% จากคาดการณ์ผ่อนคลายการเงิน ขณะที่หุ้นจีนยังสามารถปิดบวกได้เมื่อวาน

 

4. สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ธปท. และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือแนวทางเก็บภาษีการซื้อขายทองคำผ่านช่องทางออนไลน์และชำระเป็นเงินบาท เพื่อสกัดแรงหนุนค่าเงินที่แข็งค่ามากสุดในรอบ 4 ปี โดยอาจยกเว้นธุรกรรมที่ซื้อขายเป็นดอลลาร์ ฟิวเจอร์ส หรือผ่านร้านทอง ทั้งนี้เงินบาทอ่อนทันที 0.7% แตะ 31.97 ต่อดอลลาร์ หลังมีรายงานดังกล่าว ข้อมูลเผย 7 เดือนแรกปีนี้การส่งออกทองคำไทยพุ่ง 69% สู่ 254,000 ล้านบาท หนุนให้เงินบาทแข็งค่ากว่า 7% ตั้งแต่ต้นปี กระทบทั้งส่งออกและการท่องเที่ยวที่คิดเป็น 70% ของ GDP แนวทางเก็บภาษีการซื้อขายทองคำช่วยหนุน Sentiment ต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและส่งออกไทย

 

5. หน่วยงานกำกับดูแลของจีนตัดสินว่า Nvidia ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากการซื้อกิจการ Mellanox มูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 หลังเสร็จสิ้นการสอบสวนเบื้องต้น แม้ปักกิ่งเคยอนุมัติข้อตกลงนี้โดยมีเงื่อนไขห้ามเลือกปฏิบัติต่อบริษัทจีน ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นระหว่างการเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีนที่มาดริด โดยจีนยังเปิดสอบสวนทุ่มตลาดเซมิคอนดักเตอร์จากบริษัทสหรัฐฯ เช่น Texas Instruments หุ้น Nvidia ร่วงเกือบ 2% ก่อนฟื้นตัว ขณะที่ Texas Instruments ร่วง 2.9% เบื้องต้นจีนยังไม่ระบุบทลงโทษแต่จะสอบสวนเพิ่มเติม ด้าน Nvidia ยืนยันปฏิบัติตามกฎหมายและพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานกำกับต่อไป

 

6. วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติ 48–47 รับรองการแต่งตั้ง สตีเฟน มิแรน ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทรัมป์ เข้าร่วมเป็นกรรมการเฟด หลังรีพับลิกันเร่งผลักดันให้ทันการประชุม FOMC วันที่ 17 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับจากธันวาคมปีก่อน ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังเรียกร้องให้เฟดลดแรงเกินกว่า 0.25% การแต่งตั้งครั้งนี้มีขึ้นหลังการลาออกกะทันหันของอดีตผู้ว่าการเฟด อาเดรียนา คูเกลอร์ และสร้างเสียงวิจารณ์จากเดโมแครตที่กังวลเรื่องความเป็นอิสระของเฟด ด้านมิแรนยืนยันต่อสภาว่าจะทำงานอย่างอิสระโดยอ้างอิงการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจของตนเอง

 

7. สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอรัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยภาคธุรกิจ โดยชี้ 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ภาษีสหรัฐฯ และสินค้าทุ่มตลาด เสนอเร่งทำความเข้าใจกฎ RVC และผลักดัน Made in Thailand, 2) ปัญหา SMEs เสนอ Fast Track Loan และ Soft Loan ดอกเบี้ยต่ำ, 3) พลังงาน เสนอไม่ผลักภาระ LNG และเร่งทำ PDP ใหม่, 4) การค้าชายแดนกัมพูชา เสนอเพิ่มเที่ยวเรือและสิทธิประโยชน์ BOI, และ 5) ค่าเงินบาทแข็ง เสนอศึกษาผลกระทบทองคำ–คริปโตและลดค่าธรรมเนียม Hedging โดย ส.อ.ท. ย้ำว่ารัฐบาลควรมีมาตรการเชิงรุกและเชิงรับควบคู่กันเพื่อพยุงอุตสาหกรรมไทย.

 

8. คณะทำงานปฏิรูปตลาดหุ้นไทย ซึ่งประกอบด้วย สศค., ก.ล.ต., ตลท. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกันเปิดเผย “ร่างมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย” ผ่าน 4 แนวทาง เพิ่มคุณภาพผู้ลงทุน, เพื่อสินค้าให้ดึงดูด, สร้างความเชื่อมั่น และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถ
 
ประเด็นที่ต้องติดตาม: ZEW Economic Sentiment Index ของยุโรป เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 24 จากก่อนหน้าที่ 25.1 และ Retail Sales MoM ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 0.4% จากก่อนหน้าที่ 0.5%

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5