Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 17 ก.ย. 2568

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 17 ก.ย. 2568

 

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
17 September 2025

 

1. นักลงทุนชะลอการลงทุนรอการตัดสินใจดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้ S&P 500 ปรับลง 0.1% และ Dow Jones ร่วง 0.3% ขณะที่ Nasdaq 100 ทรงตัว พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดขึ้น ยีลด์พันธบัตร 2 ปี ลดลง 3 bps แตะ 3.51% ดอลลาร์อ่อนค่า -0.5% ยูโรแข็งขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2021 ราคาน้ำมัน WTI พุ่ง 2% ที่ 64.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ทองคำขยับขึ้น 0.3% ปิด 3,689.78 ดอลลาร์/ออนซ์ Bitcoin บวก 1.2% สู่ 116,836 ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดรอคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% และส่งสัญญาณการผ่อนคลายต่อเนื่องในปีหน้า

 

2. นักลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ เร่งถกกันหลัง สตีเฟน มิแรน กรรมการเฟดคนใหม่ อ้างถึง “พันธกิจที่สาม” ของเฟด คือการรักษาอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในระดับปานกลาง ซึ่งแม้เป็นถ้อยคำที่มีอยู่ในกฎหมายดั้งเดิม แต่ถูกละเลยมานาน นักวิเคราะห์บางรายมองว่านี่สะท้อนความตั้งใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะใช้เฟดกดดันยีลด์ระยะยาวเพื่อหนุนตลาดที่อยู่อาศัยและลดต้นทุนหนี้ ขณะที่ความเสี่ยงคือหากเฟดเดินหน้าแทรกแซงมากเกินไป อาจก่อแรงกดดันเงินเฟ้อและบั่นทอนความเป็นอิสระของนโยบายการเงิน

 

3. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อน สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.2% หากตัดรถยนต์ออก ยอดขายขยับขึ้น 0.7% และกลุ่ม Control Group ซึ่งใช้คำนวณ GDP ก็เพิ่มขึ้น 0.7% เช่นกัน แรงหนุนหลักมาจากการซื้อสินค้าออนไลน์ เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา สะท้อนบรรยากาศการจับจ่ายช่วงเปิดภาคเรียน ขณะเดียวกันยอดใช้จ่ายในร้านอาหารและบาร์ขยับขึ้น 0.7% หลังจากหดตัวในเดือนก่อน แม้ตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว แต่การบริโภคยังคงแข็งแกร่งจากค่าจ้างที่ยังเติบโตเร็วกว่าการปรับขึ้นของราคา และแรงหนุนจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นของกลุ่มผู้มีรายได้สูง

 

4. สหรัฐฯ และอินเดียระบุว่าการเจรจาการค้าในกรุงนิวเดลีเมื่อวันอังคารเป็นไปในเชิงบวก โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะ “เร่งความพยายาม” เพื่อบรรลุข้อตกลง หลังปธน. ทรัมป์ เพิ่งขึ้นภาษีนำเข้า 50% ต่ออินเดียเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในเอเชีย อย่างไรก็ดี ประเด็นใหญ่เรื่องการซื้อน้ำมันรัสเซียของอินเดียยังไม่ได้ข้อสรุป ทรัมป์มองว่าการซื้อดังกล่าวช่วยสนับสนุนปูตินทำสงคราม และเสนอให้ G7 เพิ่มภาษีจีนและอินเดียซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ ขณะที่รัฐบาลอินเดียยืนยันว่าจะซื้อต่อหากยังคุ้มค่า โดยทรัมป์ระบุว่าจะพูดคุยกับนายกฯ นเรนทรา โมดี ในอีก 2–3 สัปดาห์ข้างหน้า นักวิเคราะห์ชี้ว่าการกลับมาเจรจาถือเป็นสัญญาณบวก แต่ยังยากที่จะหาจุดร่วมระหว่างความต้องการของสหรัฐฯ และข้อกังวลหลักของอินเดีย

 

5. Bloomberg รายงานว่า แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง หลังหายไปจากสาธารณะตั้งแต่ปี 2020 ช่วงรัฐบาลจีนกวาดล้างบริษัทเทคโนโลยี ขณะนี้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงในกลยุทธ์สำคัญ ทั้งการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผลักดันแผนทุ่มงบ 50,000 ล้านหยวนเพื่อรักษาฐานลูกค้า Alibaba แม้ Alibaba ยังไม่ยืนยันตำแหน่งทางการ แต่บุคลากรภายในเผยว่า หม่าเข้ามามีบทบาทมากที่สุดในรอบหลายปี พร้อมจับตาอัปเดตงานด้าน AI อย่างใกล้ชิด การกลับมาของหม่า ถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกต่อเนื่องต่อภาคเอกชนจีน

 

6. กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่าส่งออกเดือนสิงหาคมลดลง 0.1% จากปีก่อน หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยหลักมาจากรถยนต์และเหล็ก ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ -2% การส่งออกไปสหรัฐฯ ร่วง 13.8% ถือว่าลดลงแรงสุดในรอบกว่า 4 ปี ส่วนส่งออกไปจีนลดลง 0.5% แต่ยุโรปเพิ่มขึ้น 5.5% ทำให้ดุลการค้าขาดดุล 242.5 พันล้านเยน การนำเข้าลดลง 5.2% สูงกว่าคาดการณ์ -4.1% สถานการณ์สะท้อนผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ที่ยังคงกดดันการค้าโลก และเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งพึ่งพาการส่งออกอย่างมาก

 

7. TikTok ที่ดำเนินกิจการในสหรัฐฯ จะถูกซื้อโดยกลุ่มนักลงทุนที่ประกอบด้วย Oracle, Silver Lake และ Andreessen Horowitz ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ปธน. ทรัมป์ จะหารือกับปธน. สี จิ้นผิง ในสัปดาห์นี้ ข้อตกลงกำหนดให้ ByteDance ลดสัดส่วนถือหุ้นต่ำกว่า 20% ตามกฎหมายความมั่นคงสหรัฐฯ ปี 2024 เพื่อเลี่ยงการแบน โดย Oracle จะยังคงให้บริการคลาวด์และดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ผ่านโครงการ “Project Texas” เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลไม่ถูกส่งกลับไปจีน โดยนักลงทุนใหม่จะถือหุ้นรวม 50% และนักลงทุนสหรัฐฯ เดิมถือราว 30% ทำให้ ByteDance คงเหลือไม่ถึง 20% ข้อตกลงนี้จะเปิดทางให้ TikTok สามารถดำเนินงานในตลาดสหรัฐฯ ต่อไป และช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

 

8. พรรคภูมิใจไทยเผยความคืบหน้าการจัดทำร่างแถลงนโยบาย คาดจะเสร็จสิ้นภายใน ก.ย. นี้ หนุนนโยบาย “คนละครึ่ง” จะเป็นนโยบายเรือธง และอื่นๆ เช่น ลดค่าไฟฟ้า, แก้ไขปัญหาการค้าชายแดน, ดึงดูด นลท. ย้ายฐานการผลิต และนโยบายรถไฟฟ้า 40 บาท-รถเมล์ไฟฟ้า 20 บาท ด้านรายชื่อ ครม. ทั้งหมด 36 ท่านมีความชัดเจนแล้วหลังตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้น โดยเป็นคนนอก 9 ท่าน ไม่ผิดไปจากกระแสข่าวก่อนหน้า
 
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Building Permits Prel ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 1.37M จากก่อนหน้าที่ 1.362M และ Housing Starts ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 1.37M จากก่อนหน้าที่ 1.428M