1. ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสาน น้ำมันร่วงจากข่าว OPEC+ พิจารณาเพิ่มผลิต
2. ทรัมป์นัดผู้นำสภาคองเกรสถกงบ เลี่ยงชัตดาวน์
3. การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ โตต่อเนื่อง แม้เงินเฟ้อยังสูง
4. กำไรอุตสาหกรรมจีนเดือนส.ค. พุ่ง 20% ครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
5. เดนมาร์กพบโดรนต้องสงสัยป้วนเปี้ยนฐานทัพ ยกระดับเตือนภัยสูงสุดรอบทศวรรษ
6. ติดตามการแถลงนโยบาย “4 เดือน 4 ภารกิจหลัก” ของนายกฯ ไทยต่อรัฐสภา
7. รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเผยรายละเอียด “คนละครึ่งพลัส”
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
29 September 2025
1. ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสาน ดัชนี Nikkei225 -0.7% แต่หุ้นเกาหลี–ออสเตรเลียบวก ขณะที่ฟิวเจอร์ส S&P 500 +0.2% ดอลลาร์ทรงตัว นักลงทุนจับตาความเสี่ยงชัตดาวน์สหรัฐฯ หากสภาคองเกรสไม่ผ่านงบภายในสัปดาห์นี้ น้ำมัน WTI -1% ปิด $65.06 หลังมีรายงานว่า OPEC+ อาจเพิ่มการผลิตเดือนพ.ย. เกิน 137,000 บาร์เรล/วันตามแผนเดิม บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ -1 bps แตะ 4.16% เยนแข็ง 0.2% ที่ 149.26/ดอลลาร์ ทองคำ +0.4% ปิด $3,775/ออนซ์ Bitcoin +1.3% ที่ $112,325 Ether +2.3% ที่ $4,146 นักลงทุนยังมองเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่อเดือนหน้า
2. ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประชุมกับผู้นำสภาคองเกรสทั้ง 4 คนที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ ก่อนงบประมาณหมดอายุ 1 ต.ค. ซึ่งหากไร้ข้อตกลงจะทำให้รัฐบาลชัตดาวน์ พรรคเดโมแครตยืนยันร่างกฎหมายต้องต่ออายุเงินอุดหนุนด้านสุขภาพและยกเลิกการตัดงบ Medicaid ที่ทรัมป์เพิ่งผ่าน ขณะที่รีพับลิกันต้องการเพียง การต่ออายุร่างงบประมาณชั่วคราว โดยไม่มีเงื่อนไขอื่น แล้วค่อยเจรจาประเด็นอื่นเพิ่มเติมภายหลัง ทรัมป์ขู่หากชัตดาวน์อาจปลดข้าราชการจำนวนมาก ด้านชัค ชูเมอร์และฮาคีม เจฟฟรีส์ย้ำว่าเดโมแครตพร้อมเจรจาเพื่อเลี่ยงวิกฤต แต่เตือนรัฐบาลอย่าล้มเลิกข้อตกลงทันทีหลังเซ็น โดยตลาดกังวลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ อาจเลื่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรใน ก.ย. 2568 ในวันที่ 3 ต.ค. นี้ จากความเสี่ยงที่งบประมาณเพื่อให้รัฐบาลกลางสามารถทำงานต่อได้ชั่วคราวไม่ได้รับการอนุมัติ
3. ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนสิงหาคม (ปรับตามเงินเฟ้อ) เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม สะท้อนการบริโภคยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้ตลาดแรงงานเริ่มชะลอและค่าจ้างขยายตัวช้าลง ขณะที่ดัชนี PCE Core เพิ่ม 0.2% จากเดือนก่อน และยังทรงตัวที่ 2.9% เทียบปีก่อน บ่งชี้แรงกดดันด้านราคายังเหนียวแน่น การใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และอุปกรณ์นันทนาการ ขยายตัวเด่น แต่การใช้จ่ายบริการโตช้าลง ทั้งนี้ อัตราการออมส่วนบุคคลลดเหลือ 4.6% ต่ำสุดของปี ทำให้เศรษฐกิจยังขึ้นกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานเป็นหลัก
4. สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่ากำไรอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 20.4% จากปีก่อน พลิกฟื้นหลังติดลบติดต่อกัน 4 เดือน ทำให้กำไรช่วง 8 เดือนแรกของปีโต 0.9% ดีกว่าคาดที่ -1.6% ปัจจัยหนุนมาจากมาตรการรัฐแก้ปัญหากำลังการผลิตล้นและการแข่งขันรุนแรง รวมถึงฐานต่ำปีก่อน ภาคอุปกรณ์ขนส่ง เช่น รถไฟ เรือ และอวกาศ มีกำไรพุ่ง 37.3% ขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กกลับมากำไรจากความต้องการและราคาที่ฟื้นตัว ด้านผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคพลิกกลับมาบวกเล็กน้อย อย่างไรก็ดี แนวโน้มกำไรยังเผชิญแรงกดดันจากดีมานด์ในประเทศที่อ่อนแรงและความไม่แน่นอนเรื่องภาษีสหรัฐฯ
5. กองทัพเดนมาร์กเผยพบโดรนบินเหนือหลายพื้นที่ทางทหาร รวมถึงฐานทัพอากาศ Karup ฐานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งเก็บเฮลิคอปเตอร์และเป็นที่ตั้งโรงเรียนการบิน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากตลอดสัปดาห์มีโดรนขนาดใหญ่รบกวนการบินที่สนามบินพลเรือนหลายแห่ง ทำให้ตำรวจต้องยกระดับเตือนภัยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี นายกฯ เมตเต เฟรเดอริกเซน ระบุว่าอาจเกี่ยวข้องกับความพยายามของรัสเซียที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพยุโรป แม้รัสเซียปฏิเสธมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้
6. ติดตามการแถลงนโยบาย “4 เดือน 4 ภารกิจหลัก” ของนายกฯ ต่อรัฐสภาระหว่างวันที่ 29-30 ก.ย. 2568 โดยเฉพาะประเด็นมาตรการกระตุ้น ศก. ระยะสั้นและนโยบายลดค่าครองชีพ
7. รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเผยรายละเอียด “คนละครึ่งพลัส” ว่าแบ่งผู้ได้รับสิทธิ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการฯ 13 ล้านคนและกลุ่มประชาชนที่ไม่อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคนจะได้รับสิทธิ์ 2,000 บาท/คน และกลุ่มผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคนจะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาท/คน และมีระยะเวลาใช้จ่ายช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2568 โดย InnovestX Research มองเป็น Sentiment บวกต่อ SET โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก (CPAXT CPALL BJC TNP) และกลุ่มสินค้าบริโภคอย่างเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI)
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Economic Sentiment ของยุโรป เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 95.1 จากก่อนหน้าที่ 95.2 และ Pending Home Sales YoY ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 1.9% จากก่อนหน้าที่ 0.7%