Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 1 ต.ค. 2568

1 Oct 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. หุ้นฟิวเจอร์ส สหรัฐฯ ร่วงก่อนเส้นตายชัตดาวน์ – ทองขึ้น

2. ทำเนียบขาวสั่งหน่วยงานเตรียมชัตดาวน์ หลังงบชั่วคราวถูกบล็อก

3. เจฟเฟอร์สันเตือนเฟดเผชิญแรงกดดันทั้งเงินเฟ้อ–การจ้างงาน

4. PMI ภาคการผลิตของจีน เดือน ก.ย. ขยับขึ้น บ่งชี้ถึงสัญญาณเริ่มฟื้นตัว

5. BOJ ลดซื้อพันธบัตรอายุยาวพิเศษ ไตรมาส 4 เสี่ยงกดดันตลาดบอนด์

6. รูปีอินเดียอ่อนค่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด RBI คงดอกเบี้ย

7. ไฟเซอร์ลดราคายาแลกเว้นภาษีทรัมป์ 3 ปี ขายผ่าน TrumpRx

8. รมว. คลังไทยเผยแนวคิดนโยบาย ศก. “กระตุ้นสั้น ได้ยาว

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 1 ต.ค. 2568

 

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
1 October 2025

1. S&P 500 และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์สอ่อนตัวราว -0.2% หลังสหรัฐฯ เสี่ยงชัตดาวน์จากงบชั่วคราวไม่ผ่าน ขณะที่ S&P 500 เพิ่งจบเดือน ก.ย. ดีสุดในรอบ 15 ปี ดัชนีดอลลาร์ขยับขึ้นหลังร่วง 3 วัน ทองคำยังทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3,864 ดอลลาร์/ออนซ์ พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีคงที่ที่ 4.15% หุ้นเอเชียเปิดลบ นำโดยญี่ปุ่น Topix -1.4% และออสเตรเลีย -0.3% ส่วนตลาดจีน–ฮ่องกงปิดทำการ เงินเยนและยูโรทรงตัวต่อดอลลาร์ Bitcoin -0.4% ที่ 114,171 ดอลลาร์ และน้ำมัน WTI ทรงตัวใกล้ 63 ดอลลาร์

 

2. รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หลังเดโมแครตขัดขวางร่างงบประมาณชั่วคราวของรีพับลิกันที่ไม่ตอบโจทย์เรื่องเงินอุดหนุนสุขภาพและการตัดงบ Medicaid ทำเนียบขาวผ่าน OMB จึงสั่งหน่วยงานรัฐบาลเตรียมแผนปิดการทำงานเป็นขั้นตอน หากไร้ข้อตกลงภายในเส้นตายเที่ยงคืน พนักงานรัฐบาลกลางราว 750,000 คนอาจถูกพักงานชั่วคราว แม้บางส่วน เช่น ทหาร จะยังต้องทำงานโดยไม่รับค่าจ้าง ความเสี่ยงนี้ยังทำให้ตลาดกังวลการเลื่อนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะรายงานจ้างงานวันศุกร์ ซึ่งอาจสร้างความซับซ้อนต่อเส้นทางการปรับดอกเบี้ยของเฟด

 

3. ฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานเฟด กล่าวที่เมืองเฮลซิงกิว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันสองด้านพร้อมกัน คือ ตลาดแรงงานอ่อนตัว ขณะเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงเร่งขึ้น ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินซับซ้อนขึ้น เขาเห็นว่าความไม่แน่นอนยังสูงจากนโยบายรัฐบาล แต่คาดว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมาย 2% ในอีกไม่กี่ปี และอัตราว่างงานอาจสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนจะลดลงอีกครั้ง เจฟเฟอร์สันระบุว่าการว่างงานที่ 4.3% เป็นสัญญาณแรงกดดันในตลาดแรงงาน และเป็นเหตุผลสนับสนุนการลดดอกเบี้ยเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เฟดมีมติคงแผนลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้อีกสองครั้ง

 

4. ดัชนี PMI ภาคการผลิตทางการจีน ก.ย. อยู่ที่ 49.8 จาก 49.4 ใน ส.ค. สูงกว่าคาดแต่ยังต่ำกว่า 50 สะท้อนภาคการผลิตหดตัว 6 เดือนติดยาวนานสุดตั้งแต่ปี 2019 ส่วนภาคที่ไม่ใช่การผลิตลดลงเหลือ 50 บ่งชี้บริการ–ก่อสร้างชะลอ อย่างไรก็ดี ผลสำรวจเอกชน (RatingDog China) ออกมาดีกว่า โดย PMI การผลิตแตะ 51.2 จาก 50.5 ได้แรงหนุนคำสั่งซื้อส่งออกใหม่ที่กลับมาขยายครั้งแรกตั้งแต่มี.ค. 2025 ขณะที่ PMI บริการอยู่ที่ 52.9 ดีกว่าคาดเล็กน้อย สะท้อนบริษัทขนาดเล็กและผู้ส่งออกยัง มีความยืดหยุ่นและได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ต่างประเทศ

 

5. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10–25 ปี เหลือ 345 พันล้านเยน/เดือน ในไตรมาส 4 จาก 405 พันล้านเยนในไตรมาส 3 แต่ยังคงซื้อพันธบัตรอายุเกิน 25 ปีไว้ที่ 150 พันล้านเยน การลดซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะขาดทุนของบอนด์อายุยาวที่ร่วงแล้ว 9% ปีนี้ จากเงินเฟ้อที่เหนียวแน่น ดีมานด์ที่ลดลง และความไม่แน่นอนการคลัง นักกลยุทธ์ชี้ว่าแม้เป็นสัญญาณเข้มงวดทางการเงิน แต่การคงซื้อพันธบัตรอายุยาวที่สุดยังช่วยพยุงเสถียรภาพตลาด BOJ ตั้งเป้าลดการซื้อรวมลงเหลือ 2.9 ล้านล้านเยน/เดือน ภายใน มี.ค. 2026

 

6. ค่าเงินรูปีอ่อนค่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.5% แม้นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคาดอาจลดลง 0.25% ด้านพันธบัตรรัฐบาลอินเดียปรับตัวลงก่อนการตัดสินใจครั้งนี้ สะท้อนความกังวลของตลาดต่อเสถียรภาพค่าเงินและนโยบายการเงินในระยะสั้น

 

7. Pfizer ตกลงลดราคายาสำคัญลงสูงสุดถึง 85% และขายตรงให้ประชาชนผ่านเว็บไซต์ “TrumpRx” เพื่อให้ราคายาในสหรัฐฯ ใกล้เคียงต่างประเทศ แลกกับการได้รับการยกเว้นภาษีอุตสาหกรรมยา 3 ปีจาก ปธน. ทรัมป์ ข้อตกลงนี้ช่วยหลีกเลี่ยงทั้งภาษีและนโยบายคุมราคายาที่อาจกระทบธุรกิจ ขณะ Eli Lilly และผู้ผลิตรายอื่นอยู่ระหว่างเจรจามาตรการคล้ายกัน หุ้น Pfizer พุ่ง 5.6% หลังประกาศข่าว ดัชนี S&P Pharma Index บวก 3.8% นักวิเคราะห์มองว่าผลกระทบต่อผู้ป่วยจริงอาจจำกัด เพราะระบบส่วนลดและรีเบตซับซ้อน แต่ถือเป็น “ชัยชนะเชิงภาพลักษณ์” ของทรัมป์ที่บังคับบริษัทยาลดราคาได้

 

8. รมว. คลังไทยเผยแนวคิดนโยบาย ศก. “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว” มุ่งเน้น 5 เสาหลัก คือ การกระตุ้น ศก. และการท่องเที่ยว, การแก้หนี้ครัวเรือน, การเสริมสภาพคล่อง SMEs, การเพิ่มการออม และการสร้างอุตฯ อนาคต ภายใต้งบกระตุ้น ศก. และงบกลาง รวม 4.4 หมื่นลบ. โดยไม่กู้เพิ่ม และตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น GDP 4Q68 ต้องสูงกว่าที่คาดไว้ 0.3%, หนี้ครัวเรือนต่อ GDP ต้องต่ำกว่า 87% จาก 87.4%
 
 
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Inflation Rate YoY Flash ของยุโรป เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 2.2% จากก่อนหน้าที่ 2%และ ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 49 จากก่อนหน้าที่ 48.7

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5