1. หุ้นเอเชียดีดกลับ หลังคาดเฟดลดดอกเบี้ย กลบแรงกังวลสงครามการค้า
2. จีนตอบโต้สหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทเดินเรือ Hanwha ขยายวงศึกการค้า
3. ทรัมป์ขู่ระงับการค้าน้ำมันปรุงอาหารกับจีน ตอบโต้จีนไม่ซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ
4. พาวเวลส่งสัญญาณเฟดลดดอกเบี้ยอีกครั้งปลายเดือนนี้ หลังตลาดแรงงานอ่อนตัวต่อเนื่อง
5. ทำเนียบขาวยืนยันเดินหน้าปลดพนักงานรัฐ ชัตดาวน์ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 14
6. เจมี ไดมอน เตือนความเสี่ยงคุณภาพสินเชื่อ แม้รายได้เทรด–IB แข็งแกร่งเกินคาด
7. IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2568 ขึ้นเป็น +3.2%
8. ติดตามการประชุม ครม. เศรษฐกิจไทยในวันนี้
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
15 October 2025
1. ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัว หลังนักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งปลายเดือนนี้ ตามสัญญาณจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ดัชนี Topix ของญี่ปุ่นบวก 0.8% S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่ม 0.9% และสัญญา Nasdaq Futures ทรงตัว หลัง S&P 500 ปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนจากความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ–จีน ดอลลาร์ทรงตัว ขณะที่ราคาทองคำพุ่ง 0.6% แตะ $4,166/oz และน้ำมัน WTI ทรงตัวใกล้ $58.6 นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศในเกาหลีใต้ปลายเดือนนี้ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่นหลังรัฐบาลผสมล่ม
2. จีนประกาศคว่ำบาตรบริษัท Hanwha Ocean ของเกาหลีใต้ในส่วนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในสหรัฐฯ พร้อมขู่ใช้มาตรการตอบโต้เพิ่มเติม นับเป็นการขยายความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ จากเดิมที่จำกัดอยู่ในภาษีนำเข้าและแร่หายาก มาสู่ภาคการขนส่งทางเรือ ข่าวดังกล่าวกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก โดยหุ้น Hanwha ร่วงกว่า 6% ขณะที่หุ้นผู้ผลิตเรือจีนพุ่งสวนทาง นักวิเคราะห์จาก Fibonacci Asset Management มองว่ามาตรการของจีนส่งสัญญาณว่าหาก Hanwha Ocean เดินหน้าร่วมมือกับสหรัฐฯ ต่อไป ก็อาจต้องสูญเสียโอกาสทางธุรกิจในจีน
3. ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ระงับการค้าน้ำมันปรุงอาหารกับจีน เพื่อตอบโต้ที่จีนปฏิเสธซื้อนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ซึ่งเขามองว่าเป็น “การกระทำที่ไม่เป็นมิตรทางเศรษฐกิจ” พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ สามารถผลิตน้ำมันปรุงอาหารได้เองโดยไม่ต้องพึ่งจีน โดยทรัมป์เตือนเพิ่มเติมว่าอาจเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 100% ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน หากจีนยังคงจำกัดการส่งออกแร่หายากและสินค้ากลยุทธ์อื่น ๆ
4. เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณชัดว่าเฟดเตรียมลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมปลายเดือนตุลาคม หลังการจ้างงานสหรัฐฯ ชะลอตัวต่อเนื่อง โดยระบุว่า “การลดลงของตำแหน่งงานอาจเริ่มสะท้อนในอัตราว่างงาน” นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ต่อการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ตามข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์ส นักเศรษฐศาสตร์จาก MacroPolicy Perspectives และ Conference Board เห็นตรงกันว่าความเสี่ยงด้านการจ้างงานเพิ่มสูงขึ้น แม้อัตราเงินเฟ้อยังเกินเป้าหมาย 2% ขณะเดียวกันพาวเวลยังส่งสัญญาณว่าเฟดอาจชะลอการลดขนาดงบดุลในอนาคตเพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด
5. ทำเนียบขาวประกาศเดินหน้าปลดพนักงานหน่วยงานรัฐบาลกลางกว่า 4,000 คน ขณะวิกฤตชัตดาวน์ของสหรัฐฯ เข้าสู่วันที่ 14 โดยจะยังคงจ่ายเงินให้ทหารและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ขณะที่พนักงานรัฐบาลส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับค่าจ้าง การปลดครั้งนี้ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ครั้งแรกระหว่างชัตดาวน์ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ซึ่งยกระดับความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่าจะเดินหน้ารับมือกับภาวะชัตดาวน์ต่อไป จนกว่าฝ่ายเดโมแครตจะยอมเจรจาเรื่องการต่ออายุเงินอุดหนุนประกันสุขภาพที่ช่วยลดเบี้ยประกันให้ชาวอเมริกันกว่า 22 ล้านคน
6. เจมี ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan เตือนถึงความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อและแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว แม้ธนาคารรายงานรายได้จากธุรกิจเทรดและวาณิชธนกิจไตรมาส 3 สูงเกินคาด โดยเพิ่มขึ้น 25% และ 16% ตามลำดับ ขณะกำไรได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่ม 810 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่จากธุรกิจบัตรเครดิต และขาดทุนจากกรณี Tricolor Holdings ที่ล้มละลาย หุ้น JPMorgan ร่วง 4.4% หลังประกาศงบ ด้านไดมอนชี้ว่ายังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ภาษี และเงินเฟ้อที่อาจยืดเยื้อ แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมยังคงแสดงความยืดหยุ่น
7. IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2568 ขึ้นเป็น +3.2% (จาก +3.0%) และขยายตัว +3.1% ในปี 2569 หลังพบว่าในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การเงินมีความทนทานต่อมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ และย้ำเตือนว่าความขัดแย้งทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะเป็นความเสี่ยงอย่างมีนัยยะฯ ต่อการเติบโต
8. ติดตามการประชุม ครม. เศรษฐกิจไทยในวันนี้ (15 ต.ค.) เวลา 10:00 น. InnovestX Research คาดคลังจะเสนอแนวทางขับเคลื่อน ศก. ไทยสำหรับช่วง 4 เดือนนี้, พิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงปลายปี-เร่งเบิกจ่ายงบสัมมนา, การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบ 1Q69FY (ต.ค.-ธ.ค. 2568), การเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ และการเจรจา FTA
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Inflation Rate YoY ของจีน เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ -0.2% จากก่อนหน้าที่ -0.4%