1.ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่ม หนุนตลาดคาด Fed อาจลดดอกเบี้ย ก.ย.
2.ผลประกอบการ S&P 500 กำไรโต 10% สูงกว่าคาดมาก
3.Pinterest ร่วงหลังยอดขายผิดหวัง สวนทาง Expedia และ Block ที่พุ่งขึ้น
4.น้ำมันเตรียมปิดลบ! ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ทำกังวลเศรษฐกิจและดีมานด์ลดลง
5.SET .ดัชนีปิดลบก่อนเข้าหยุดยาวหลังขาดปัจจัยหนุนใหม่
1. มาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 50% กับหลายประเทศ แม้ว่าหลายประเทศได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อลดระดับภาษีแล้ว แต่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของมาตรการนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี เป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากรายงานการจ้างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ออกมาน่าผิดหวัง ตัวเลขเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้
2. นักวิเคราะห์จาก HSBC ชี้ว่าเมื่อบริษัทในดัชนี S&P 500 รายงานผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุดไปแล้วกว่า 2 ใน 3 จำนวนบริษัทที่ทำกำไรได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา บริษัทในดัชนีหลักประมาณ 80% รายงานกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยความหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ถูกบดบังด้วยมาตรการภาษี ขณะนี้ S&P 500 มีแนวโน้มที่จะทำกำไรต่อหุ้นเติบโต 10% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งเกือบสองเท่าของประมาณการเริ่มต้นจากวอลล์สตรีท
3. หุ้น Pinterest (PINS) ร่วงลงกว่า 11% ในการซื้อขายช่วงก่อนตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักวิเคราะห์ชี้ว่ายอดขายไตรมาสที่สองในสหรัฐฯ และแคนาดาต่ำกว่าคู่แข่งใกล้เคียง ในทางกลับกัน หุ้น Expedia (EXPE) พุ่งขึ้นอย่างมากในการซื้อขายช่วงก่อนตลาดเปิด หลังจากที่เว็บไซต์จองการเดินทางรายนี้รายงานกำไรและรายได้ในไตรมาสที่สองสูงกว่าความคาดหวัง นอกจากนี้ หุ้น Block (XYZ) ก็ปรับตัวขึ้นหลังจากบริษัทแม่ของ Cash App ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มกำไรขั้นต้นสำหรับทั้งปี
4. ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในวันนี้ แต่ยังคงมีแนวโน้มที่จะขาดทุนอย่างหนักในรอบสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลว่าภาษีของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะลดความต้องการน้ำมันดิบฟิวเจอร์ส Brent เพิ่มขึ้น 0.6% มาอยู่ที่ 66.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.6% มาอยู่ที่ 64.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล7 สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทั้งสองมีแนวโน้มที่จะขาดทุนรายสัปดาห์ระหว่าง 3% ถึง 4% ซึ่งจะเป็นการขาดทุนรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันจากการตัดสินใจของกลุ่ม OPEC+ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ที่จะยกเลิกการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกันยายน ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายหลายเดือน
5. SET Index ปิดที่ 1259.07 จุด (-6.08จุด / -0.48%) ในวันที่ 8 ส.ค. 2568 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท
ตลาดเผชิญกับแรงขายทำกำไรก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว โดย Fund Flow ชะลอตัวและไม่มีปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนตลาด
แรงซื้อมาจากกลุ่มขนส่ง ธนาคาร และประกันภัย ในขณะที่แรงขายมาจากกลุ่มค้าปลีก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สื่อ ไฟแนนซ์ ปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์
-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b