Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 14 ส.ค. 2568

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 14 สิงหาคม 2568

 

1. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของดัชนีหลักสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดอาจจะมีการพักตัว หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ฟิวเจอร์ส Dow แทบไม่เปลี่ยนแปลง, S&P 500 Futures ลดลง 0.1% และ Nasdaq 100 Futures ลดลง 0.1% ปัจจัยที่หนุนการปรับขึ้นนี้คือความคาดหวังว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกันยายน เพื่อตอบสนองต่อสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังช่วยหนุนการคาดการณ์เชิงผ่อนคลาย โดยกล่าวว่าการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงถึงครึ่งจุดโดย Fed อาจเป็นไปได้ เนื่องจากมีการปรับลดตัวเลขการเติบโตของงานในเดือนมิถุนายนและพฤษภาคมอย่างมาก

 

2. หุ้น Cisco Systems เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิดทำการ หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายประกาศแนวโน้มรายได้ไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ แม้จะยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในปีงบประมาณที่เพิ่งสิ้นสุดไป Cisco ถูกมองว่าเป็นบริษัทที่อาจได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการเสริมความสามารถด้าน AI เพื่อตอบสนองความต้องการเทคโนโลยีใหม่นี้ที่พุ่งสูงขึ้น Chuck Robbins ซีอีโอของ Cisco กล่าวกับนักลงทุนว่า คำสั่งซื้อโครงสร้างพื้นฐาน AI ในไตรมาสที่สี่ของปีงบประมาณอยู่ที่ 800 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมทั้งปีสูงกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเริ่มต้นถึงสองเท่า รายได้ในไตรมาสที่สิ้นสุดในวันที่ 26 กรกฎาคม อยู่ที่ 14,670 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 14,620 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้บริหารระบุว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมได้รับผลกระทบ "เล็กน้อย" จากภาษีสหรัฐฯ ที่เก็บจากทองแดง เหล็ก และอลูมิเนียม และเสริมว่ามาตรการเหล่านี้กำลังสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ "ซับซ้อน"

 

3. วันนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อาจให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าตัวเลขราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือนมิถุนายนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นักวิเคราะห์ต้องการเห็นว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินค้าบางอย่างจากภาษีจะถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายภาคบริการที่อยู่ในระดับต่ำเหมือนในเดือนมิถุนายนหรือไม่  นอกจากนี้ วันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เป็นครั้งแรก โดยนักเศรษฐศาสตร์ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ตลาดและผู้กำหนดนโยบายต่างจับตาดูการพัฒนาในตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการชะลอตัวของงานในช่วงที่ผ่านมาถูกมองว่าเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ Fed กลับมาลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

 

4. Financial Times รายงานว่า DeepSeek ได้เลื่อนการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่ เนื่องจากความพยายามในการฝึกโมเดลด้วยชิปของ Huawei ล้มเหลว โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวสามคนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ รายงานระบุว่าสตาร์ทอัพ AI ของจีนรายนี้ประสบปัญหาทางเทคนิคอย่างต่อเนื่องเมื่อฝึกโมเดล R2 โดยใช้ชิป Ascend ของ Huawei ทำให้ต้องหันไปใช้ชิป Nvidia สำหรับการฝึกและใช้ชิป Ascend สำหรับการประมวลผลแทน ซึ่งปัญหานี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การเปิดตัวโมเดล R2 ที่หลายคนตั้งตารอต้องล่าช้าออกไปจากเดิมในเดือนพฤษภาคม รายงานของ FT เน้นย้ำถึงความยากลำบากที่นักพัฒนา AI ของจีนต้องเผชิญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะชิป AI ของ Nvidia DeepSeek และบริษัทคู่แข่งได้รับการสนับสนุนจากปักกิ่งให้ใช้ชิป Ascend ของ Huawei ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเมื่อการส่งออกชิปจากสหรัฐฯ ไปยังจีนกลายเป็นประเด็นสำคัญในปีนี้

 

5. Bitcoin พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเรื่องการซื้อจากบริษัทต่างๆ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนราคาคริปโทฯ โดยเพิ่มสภาพคล่องสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ Bitcoin ยังได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทต่างๆ หันมาใช้กลยุทธ์การบริหารเงินสำรอง (Treasury Strategy) ที่ได้รับความนิยมจาก MicroStrategy Incorporated ของ Michael Saylor มากขึ้น โดย Metaplanet ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือครอง Bitcoin เป็นอันดับที่หกของโลก ได้เปิดเผยการซื้อโทเคนดิจิทัลมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ และกล่าวว่ากำลังระดมทุนเพิ่มเติมอีกหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อเพิ่ม

 

6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,266.67 จุด ลดลง 10.76 จุด (-0.84%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56,938.83 ล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุว่าตลาดหุ้นไทยปรับลงเข้าสู่โหมดพักฐานหลังจากหมดข่าวดี ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนได้จากหุ้น AOT ที่ถูกเทขายหลังเปิดงบไตรมาส 2 ปี 2568 ที่น่าผิดหวัง และหุ้นหลายตัวมีผลประกอบการไม่สอดคล้องกับราคาหลังมูลค่า (Valuation) กลับมาสูง 

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b