1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ แผ่วลง ซึมซับข่าวการเมือง แต่โอกาส Fed ลดดอกเบี้ยยังจำกัด
2.Shutdown ใกล้จบ วุฒิสภาอนุมัติร่างงบฯ ฉุกเฉิน คาดรัฐบาลจะกลับมาเปิดทำการ
3.CoreWeave ผู้ให้บริการ AI Cloud หั่นเป้ารายได้ หลัง Data Center พาร์ทเนอร์ล่าช้า
4.SoftBank กำไรพุ่งกว่าคาด หนุนจากกำไรในพอร์ตลงทุน AI และขายหุ้น Nvidia
5.จีนเตรียมคุมแร่ Rare Earth จำกัดการเข้าถึงวัสดุสำคัญสำหรับกองทัพสหรัฐฯ
6.SET ปิดลบ ตลาดขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ รอดูงบ Q3/68 ของบริษัทจดทะเบียน
🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 11 พฤศจิกายน 2568
1. ฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 0.1%, Nasdaq 100 Futures ลดลง 0.2% และ Dow Futures แทบไม่เปลี่ยนแปลง การปรับตัวขึ้นของตลาดหลักวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าสมาชิกรัฐสภาใกล้จะยุติภาวะ Shutdown ที่กินเวลานานที่สุดเป็นประวัติการณ์ลงได้ นักวิเคราะห์ชี้ว่ากระแสความตื่นเต้นในหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงอยู่ โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกจากผลประกอบการของบริษัทสำคัญอย่าง Nvidia อย่างไรก็ตาม แนวโน้มสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจาก Fed ในปีนี้เริ่มไม่แน่นอน หลังเจ้าหน้าที่ Fed รายหนึ่งส่งสัญญาณว่าช่องว่างสำหรับการลดดอกเบี้ยมีจำกัด
2. วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงคะแนนเสียงอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยยุติภาวะ Government Shutdown ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต 8 คนที่เข้าร่วมกับพรรครีพับลิกัน ร่างกฎหมายนี้จะขยายงบประมาณของรัฐบาลออกไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2569 รวมถึงรับประกันการจ่ายค่าจ้างย้อนหลังให้กับพนักงานรัฐบาลกลางที่ถูกพักงาน การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ แม้ว่าร่างกฎหมายนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและลงนามโดยประธานาธิบดี Donald Trump ต่อไป
3. หุ้น CoreWeave บริษัทให้บริการ AI Cloud ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia ปรับตัวลงในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิดทำการ หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามี ความล่าช้าจากศูนย์ข้อมูลของพาร์ทเนอร์ภายนอก ส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปีงบประมาณ 2568 ลงเหลือระหว่าง $5.05 - $5.15 พันล้าน จากประมาณการเดิมที่ $5.15 - $5.35 พันล้าน แม้ว่ารายได้รายไตรมาสจะสูงกว่าคาด แต่การปรับลดเป้านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการใช้จ่ายด้านทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันอัตรากำไร (Adjusted Operating Income Margin) ที่ลดลงเหลือ 16% จาก 21% ในปีก่อนหน้า
4. SoftBank Group Corp. รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2568 ที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยทำกำไรถึง 2.502 ล้านล้านเยน ($16.3 พันล้าน) ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้า กำไรนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากผลตอบแทนที่แข็งแกร่งจากการลงทุนในกองทุน Vision Funds โดยเฉพาะการลงทุนใน OpenAI นอกจากนี้ SoftBank ยังเปิดเผยว่าได้ขายหุ้น Nvidia ที่เหลือทั้งหมดออกไปมูลค่า $5.83 พันล้าน แต่ไม่ได้ให้เหตุผลสำหรับการตัดสินใจขายครั้งนี้
5. สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า จีนกำลังเตรียมมาตรการเพื่อ จำกัดการไหลเวียนของแร่ Rare Earth และวัสดุสำคัญอื่นๆ ไปยังกองทัพสหรัฐฯ โดยวางแผนที่จะใช้ระบบ "Validated End-User" เพื่อตัดบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพสหรัฐฯ ออกจากการรับแร่หายากจากจีน ในขณะที่เร่งรัดการจัดส่งให้กับบริษัทในภาคพลเรือน การดำเนินการนี้เป็นไปตามคำมั่นของ Xi Jinping ที่จะกลับมาจัดส่งแร่หายากให้สหรัฐฯ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้การควบคุมนี้เป็นกลไกต่อรองที่สำคัญในความขัดแย้งทางการค้า
6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,300.47 จุด ลดลง 5.79 จุด (-0.44%) โดยมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงและยังคงอยู่ในโหมดพักตัว หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่เริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ออกมาแล้ว มีแรงซื้อหุ้นที่รายงานผลดีเข้ามาบ้าง แต่ก็เผชิญแรงขายทำกำไรในหุ้นบางกลุ่ม เช่น แบงก์ใหญ่ โรงพยาบาล และค้าปลีก นอกจากนี้ หุ้นที่มีผลต่อดัชนีอย่าง DELTA ก็ปรับตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อภาพรวมของตลาด
-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
