ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนโดยรายงานข้อมูลการจ้างงานที่ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือน ก.ย.
กระแสเงินในวันที่ 3 ก.ย. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีเงินไหลเข้าหุ้นโลก 3) มีเงินไหลออกหุ้นกลุ่มเทคฯ แต่ในแรงเก็งกำไรในกลุ่มเซมิฯและ AI 4) มีแรงขายทำกำไรในโลหะมีค่า 5) มีแรงซื้อในกลุ่ม Consumer Staples 6) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็กและตลาด EM 7) มีแรงขายในกลุ่มพลังงาน
ทรัมป์เตรียมเก็บภาษี “ค่อนข้างมาก” ต่อเซมิคอนดักเตอร์เพื่อดึงห่วงโซ่อุปทานกลับสหรัฐ หนุนบวกต่อผู้ผลิตชิปอเมริกันอย่าง NVDA, AMD และ TSMC ขณะเดียวกันการผ่อนคลายกฎรถยนต์ไร้คนขับจะเร่งการเติบโตของ autonomous โดย Tesla และ Waymo (Googl) มีโอกาสได้ประโยชน์เด่น
AVGO งบโตดีหนุนจาก AI รวมถึงให้แนวโน้มดีกว่าคาดทั้งการเติบโตรายได้และรายได้จาก AI ซึ่งภาพนี้สวนทางอุตฯเซมิฯเดิมที่ TXN เผยว่าการฟื้นตัวไม่ได้รวดเร็ว cycle ก่อนซึ่งเป็นผลมาจากตลาดรถยนต์ที่ฟื้นตัวยังไม่เต็มที่ ด้วยภาพนี้ทำให้เรามองว่ากลุ่มเซมิฯยังคงเน้นไปที่กลุ่ม AI ที่มีแนวโน้มดีอย่าง NVDA TSM AMD AVGO
กลุ่มเทคฯ ลงทุนต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมความแกร่งธุรกิจโดย 1) CDNS ตกลงเข้าซื้อ Hexagon 2) NVDA เข้าลงทุนใน Quantinuum 3) PLTR ขยายความร่วมมือกับ Lumen Technologies และ Lear ซึ่งจะนำเทคฯและแพลตฟอร์มของ PLTR ไปใช้ โดยทั้งสามบริษัทยังคงเป็นหุ้นที่เรามองว่าสามารถลงทุนได้และอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับประโยชน์จาก AI
กลุ่มค้าปลีกจำเป็นอย่าง Costco เผยยอดขายเดือน ส.ค. เติบโตดี 7% ด้านสินค้าไม่จำเป็นสะท้อนความผันผวนกว่าสินค้าจำเป็น โดย Lululemon เผยยอดขายในสหรัฐฯ อ่อนแอ และลดกำไรลงทั้งปี ด้าน Gap บุกตลาดความงามเพื่อทดแทนแรงกดดันยอดขาย เราแนะอยู่ในค้าปลีกสินค้าจำเป็น (COST, WMT) ที่มีความผันผวนต่ำ และได้รับผลกระทบจากำลังซื้อจำกัด
กลุ่มการเงินประกาศความร่วมมือดังนี้ Citi มอบหมายให้ BlackRock เป็นผู้จัดการสินทรัพย์กลุ่มลูกค้าร่ำรวย ด้าน Goldman Sachs ร่วมมือกับ T. Rowe Price เพื่อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดส่วนบุคคล เรามองเป็นบวกทั้งสองดีล โดยเราชอบ GS มากที่สุดมองดีลดังกล่าวเป็นการขยายฐานลูกค้า และเป็นการขยายช่องทางการเติบโตรายได้ Non-NII
BYD ลดเป้ายอดขายปี 2025 ลง 16% เพราะการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มรถราคาต่ำ ขณะที่ VinFast แม้รายได้และยอดส่งมอบโตแรงแต่ยังขาดทุนหนัก สะท้อนตลาด EV เอเชียแข่งขันสูง เราแนะชะลอการลงทุน BYD ระยะสั้น และแนะมอง Xpeng, Zeekr, Geely และ Xiaomi ที่มีแนวโน้มเติบโตและ margin ดีขึ้น