Keyword
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า - 20 เม.ย. 2566

20 Apr 23 9:10 AM
Screenshot-2023-04-20-090302-20240911203345
ระยะสั้นดูไม่ค่อยดี แนวโน้มพักตัวต่อ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้ต่อ จากสัญญาณเทคนิคที่เป็นลบ และตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1570 จุด หากต่ำกว่าเป็นลบต่อ หรือเปิดด้าน downside มากขึ้น และมีแนวรับถัดไปที่ 1560 จุดด้านการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1588 และ 1600 จุด ต้องขึ้นทะลุกลับมาก่อนถึงเป็นสัญญาณบวก
ประเด็นสำคัญ 

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 4 แสนบาร์เรล• Morgan Stanley รายงานงบ 1Q66 กำไรลดลง 19%YoY ขณะที่รายได้ลดลง 2%YoY ได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาของธุรกิจวาณิชธนกิจ• Disney มีแผนที่จะปลดพนักงานหลายพันคนในสัปดาห์หน้า ส่วน Meta เริ่มปลดพนักงานสายเทคนิค หลังไม่ประสบความสำเร็จกับ Metaverse• Tesla Inc. ประกาศลดราคา EV โมเดล Y และโมเดล 3 ในสหรัฐ นับเป็นการลดราคาครั้งที่ 6 ในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลกำไรบริษัท• ส.อ.ท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มี.ค. เพิ่มขึ้นต่อเป็นเดือนที่ 3 สูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ ม.ค. 2556 เช่นเดียวกับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะให้ภาครัฐแก้ปัญหาค่าไฟแพง พร้อมเปิดตลาดส่งออกกลุ่มใหม่• ก. ท่องเที่ยว ระบุเลื่อนเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายใน ปท. ของ นทท. ต่างชาติ จากเดิม 1 มิ.ย. 66 คาดจะจัดเก็บในวันที่ 1 ก.ย. 66 หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อแก้ข้อขัดข้องของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ และวางระบบช่องทางการจัดเก็บอื่นๆ ให้พร้อม• ศูนย์อสังหาฯ ระบุผลสำรวจดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ กทม.-ปริมณฑล ตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ ปรับขึ้น 0.8-2.0% ทั้งบ้าน-คอนโดฯ สะท้อนต้นทุนจริง หลังลดราคาบ้านหรู-ห้องชุดค้างสต๊อก

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหว Sideways อยู่ในกรอบระหว่าง 1580-1620 เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และรอดูผลประกอบการ 1Q66 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ อีกทั้งมุมมองที่แตกต่างระหว่างเฟดและตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจนำไปสู่ความผันผวนของตลาดในระยะถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : มอง SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1580-1620 หลังยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และรอดูผลประกอบการ 1Q66 ของกลุ่ม ธพ. ไทยที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้          1. หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. ทำให้คาด Downside เริ่มจำกัด จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF          2. หุ้นที่มีสถิติให้ผลตอบแทนดีหากซื้อวันแรกหลังเปิดสงกรานต์และขายปลายเดือน เม.ย.  โดยคัดเลือกหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และมีปัจจัยบวกหนุน ได้แก่ กลุ่มพลังงาน เลือก PTT BCP ซึ่งคาดได้อานิสงส์ราคาน้ำมันฟื้นตัวและค่าการกลั่นเข้าสู่ High Season, กลุ่มค้าปลีก เลือก HMPRO หลังอุปสงค์เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มให้ความเย็นปรับตัวดีขึ้นจากภาวะอากาศร้อนจัด และหุ้นปันผล เลือก AP KKP KTB LH ซึ่งจะขึ้น XD ในช่วงกลาง เม.ย.-ต้น พ.ค. นี้

Daily Focus

MAKRO 1Q66 คาดมีกำไรปกติ 2.4 พันลบ. เติบโต 15%YoY จากยอดขายที่ดีขึ้นมากพอจะชดเชยดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ขณะที่การรีไฟแนนซ์หนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐเสร็จจากการออกหุ้นกู้สกุลบาทในเดือน เม.ย. จะทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับลดลงKTB 1Q66 กำไรสุทธิ 10.1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 15%YoY และ 24%QoQ ดีกว่าคาด อีกทั้งมองได้ประโยชน์มากที่สุดจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และ Valuation น่าสนใจ

บทวิเคราะห์วันนี้

GFPT  พรีวิว 1Q66: คาดกำไรอ่อนตัวลงKTB – 1Q66: กำไรดีเกินคาด เพราะรายได้สูงกว่าคาดTTB – 1Q66: กำไรดีเกินคาด เพราะตั้งสำรองน้อยกว่าคาด

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Daily230420_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5