Keyword
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า - 24 เม.ย. 2566

24 Apr 23 10:06 AM
Screenshot-2023-04-24-100629-20240911174322
มีลุ้นรีบาวด์ตามแนวรับ
แนวโน้มตลาดวันนี้
SET ปรับลงอย่างต่อเนื่องจนสัญญาณเทคนิคในระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ Oversold ทำให้มีโอกาสเกิดการรีบาวด์ทางเทคนิค โดยมีจุดติดตามอยู่ที่แนวรับ 1550 และ 1543 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สัญญาณในภาพรวมยังเป็นลบ ทำให้การฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1563 และ 1570 จุด ตามลำดับ 
ประเด็นสำคัญ 

• ปธ. Fed สาขาคลีฟแลนด์ หนุนให้ Fed ขึ้น ด.บ. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ ปธ. Fed สาขาแอตแลนตา คาด Fed ขึ้น ด.บ. อีก 1 ครั้งก่อนจะพักการขึ้น ด.บ. เพื่อพิจารณาผลกระทบต่อ ศก. แต่จะยังไม่ลด ด.บ. ในปีนี้ ด้าน FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 84% ที่ Fed จะขึ้น ด.บ. 0.25% ในการประชุม 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนัก 16% ที่จะคง ด.บ.• USDA ระบุยอดส่งออกถั่วเหลืองสหรัฐรายสัปดาห์อยู่ที่ 1.03 แสนตัน ต่ำกว่าคาด ขณะที่ยอดส่งออกธัญพืชชนิดอื่น ๆ ต่ำกว่าคาดเช่นกัน• สหรัฐรายงานดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการ เม.ย. ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน หนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่• EU รายงานดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการ เม.ย. ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน หนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะภาคบริการ• วันนี้ บอร์ด กกพ. พิจารณาปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค. 66 ลงมาอยู่ที่ 4.70 จาก 4.77 บ./หน่วย ตามที่ คณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าฯ ได้เสนอมาหลังมีมติเห็นชอบเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว• กปน.-กปภ. ศึกษาโครงสร้างค่าน้ำใหม่จากค่าฟฟ้าสูงขึ้นและต้นทุนเพิ่มขึ้น 15-20% เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ขอปรับขึ้นค่าน้ำ หลังจากไม่ได้ปรับขึ้นมากว่า 23 ปี• รองโฆษกรัฐบาลระบุสัญญาณ ศก. ไทยเริ่มฟื้น อัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% ครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี หลังโควิดระบาดกระทบ ศก. ทั่วโลก

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังมี Upside จำกัดและมีโอกาสอ่อนตัว เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุน และภาพรวมผลประกอบการ 1Q66 คาดยังมีแนวโน้มอ่อนแอ โดยที่หุ้นเทคโนโลยีและธนาคารเล็กของสหรัฐ รวมทั้ง บจ. ไทยที่จะออกมาสัปดาห์นี้มีโอกาสแย่กว่าคาด อีกทั้งมองนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูความชัดเจนทิศทางดอกเบี้ยจากการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค. นี้ กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : มอง SET ขาดปัจจัยหนุน และภาพรวมผลประกอบการ 1Q66 คาดยังมีแนวโน้มอ่อนแอ โดยที่หุ้นเทคโนโลยีและธนาคารเล็กของสหรัฐ รวมทั้ง บจ. ไทยที่จะออกมาสัปดาห์นี้มีโอกาสแย่กว่าคาด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะนำ Let Profit Run2. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 1Q66 จะออกมาตามตลาดคาด และจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ หรือ ผลการดำเนินงานมีสัญญาณฟื้นตัวใน 2Q66 เลือก HMPRO ADVANC KCE MINT AOT OSP3. หุ้นปันผลดี ซึ่งปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและราคาหุ้นยังมี Upside น่าสนใจเกิน 15% เลือก AP (XD 9 พ.ค. @0.65 บาท) และ LH (XD 8 พ.ค. @0.35 บาท) โดยคิดเป็น Div. Yield เกิน 3%ขณะที่มีกลุ่มหุ้นแนะนำ “ขายหรือหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน” เนื่องจากผลการดำเนินงานยังไม่สดใส และมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ NRF LPN MST SAWAD QH KTC PSH THRE TCAP MTC KEX KISS TU CBG GFPT BTG BTS BEM JASIF SAT IIG NER

Daily Focus

AOT มองกำไร 2QFY66 จะแข็งแกร่งขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจะเติบโตก้าวกระโดดใน 3QFY66 หลังกลับมาเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำในวันที่ 1 เม.ย. หลังจากมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์สิ้นสุดลงMAKRO 1Q66 คาดมีกำไรปกติ 2.4 พันลบ. เติบโต 15%YoY จากยอดขายที่ดีขึ้นมากพอจะชดเชยดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ขณะที่การรีไฟแนนซ์หนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐจากการออกหุ้นกู้สกุลบาทเสร็จจะทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับลดลงและกำไรดีขึ้น

บทวิเคราะห์วันนี้

CBG – พรีวิว 1Q66: อีกไตรมาสที่น่าผิดหวังKBANK – 1Q66: ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2566 เพราะ NIM และ ECLKKP – 1Q66: ขาดทุนจากการขายรถยึดมากกว่าคาดSPALI – พรีวิว 1Q66: คาดกำไรลดลงทั้ง YoY และ QoQ

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Daily230424_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5