ผันผวน ลุ้นวันโหวตเดือด |
แนวโน้มตลาดวันนี้ |
คาด SET ผันผวน นักลงทุนติดตามสถานการณ์ทั้งใน และนอกสภาฯ สำหรับการโหวตเลือกนายกฯ ในวันนี้ เวลา 17.00 น. ซึ่งจะรู้ผลหลังปิดตลาด โดยการผันผวนในกรอบ มีกรอบบนบริเวณ 1510-1520 จุด ส่วนกรอบล่างอยู่ที่ 1479 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบในภาพรวม และมีแนวรับถัดไปที่ 1465 จุด |
ประเด็นสำคัญ |
• จับตาวันนี้รัฐสภาโหวตนายกฯ รอบแรก ขณะที่ กกต. ส่งศาล รธน. วินิจฉัยคุณสมบัติคุณพิธา กรณีถือหุ้นไอทีวี พร้อมเสนอยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. และศาลฯ มีมติรับคำร้องหาเสียงแก้ ม.112 ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองหรือไม่ ให้แก้ข้อกล่าวหาใน 15 วัน• กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกระบุหากรัฐบาลไม่ตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อ จำเป็นต้องปรับราคาค่าขนส่งเพิ่ม 10% คาดกระทบราคาสินค้าขึ้นตาม• สหรัฐรายงานดัชนี CPI ทั่วไป มิ.ย. +3%YoY ต่ำกว่าคาดและต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน มิ.ย. +4.8%YoY ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาด Fed อาจจะยุติวงจรการปรับขึ้น ดบ. ในไม่ช้า• Beige Book ระบุกิจกรรมทาง ศก. โดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ปลาย พ.ค. แต่ยังประเมินอาจมีการเติบโตที่ชะลอตัวในระยะถัดไป• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางที่คาดว่าลดลง 1 ล้านบาร์เรล• ฮ่องกงเตรียมระงับนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จว. ของญี่ปุ่นรวมโตเกียว หลังเตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีที่บำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก มองเป็น sentiment ลบต่อ TU• อีลอน มัสก์ ประกาศตั้งบริษัทใหม่วานนี้ โดยใช้ชื่อว่า xAI มุ่งเน้นการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) |
กลยุทธ์การลงทุน |
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสได้รับแรงกดดันจาก Beige Book ของเฟดซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มของกิจกรรมเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว อีกทั้งเงินเฟ้อของสหรัฐและอังกฤษที่ปรับตัวลงค่อนข้างช้า ขณะที่ในประเทศอยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้าผลการโหวตนายกรัฐมนตรีของไทยในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “เน้นตั้งรับ และ Selective Buy” |
ล็อคเป้าลงทุน |
Weekly Portfolio : มอง SET ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “เน้นตั้งรับ และ Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP BDMS BEM2. หุ้นพื้นฐานดีซึ่งคาดยังมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2023 มากกว่าปีละ 5% เลือก TISCO LH AP3. นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำซื้อเก็งกำไรหาก SET ปรับลงมาแถว 1450 จุด สำหรับหุ้นที่คาดมีโอกาสฟื้นตัวหลังราคาปรับลงลึกจนซื้อขายด้วย PER และ PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1SD เลือก CRC GULF SCGPขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) หลังมองมีโอกาสที่ตลาดจะปรับลดคาดดการณ์กำไรลงหลังประกาศงบ 2Q66 ซึ่งคาดภาพรวมอ่อนทั้ง YoY และ QoQ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT) และ 3) หุ้นเทคโนโลยี (DELTA HANA KCE) จากความชัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน อีกทั้งผลการดำเนินงาน 2Q66 ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า |
Daily Focus |
TISCO 2Q66 ประกาศกำไรสุทธิ 1.85 พันลบ. (+3%QoQ, ทรงตัว YoY) เป็นไปตามคาด ขณะที่วันนี้เราปรับเรทติ้งขึ้นสู่ OUTPERFORM เนื่องจากผลตอบแทนจากเงินปันผลดูน่าสนใจที่ระดับ 8.2% ต่อปี หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง 7% จากจุดสูงสุด YTDGULF ช่วงสั้นมองได้อานิสงส์ Bond Yield ปรับตัวลง ขณะที่ 2H66 คาดกำไรปกติจะโต YoY และ HoH จากกำลังผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP (1,325 MW) ที่ COD ใน มี.ค. และ ต.ค. 66 และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯที่เริ่มรับรู้รายได้ มี.ค. 66 |
บทวิเคราะห์วันนี้ |
กลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย – ถึงเวลาหันเรดาร์สู่หุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยIVL – พรีวิว 2Q66: คาดกำไรทรงตัวTISCO – 2Q66: ผลประกอบการออกมาดี; ปรับเรทติ้งขึ้น |
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม Daily230713_T