Keyword
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า - 13 ก.ค. 2566

13 Jul 23 9:51 AM
Screenshot-2023-07-13-093625-20240911195816
ผันผวน ลุ้นวันโหวตเดือด
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET ผันผวน นักลงทุนติดตามสถานการณ์ทั้งใน และนอกสภาฯ สำหรับการโหวตเลือกนายกฯ ในวันนี้ เวลา 17.00 น. ซึ่งจะรู้ผลหลังปิดตลาด โดยการผันผวนในกรอบ มีกรอบบนบริเวณ 1510-1520 จุด ส่วนกรอบล่างอยู่ที่ 1479 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบในภาพรวม และมีแนวรับถัดไปที่ 1465 จุด
ประเด็นสำคัญ 

• จับตาวันนี้รัฐสภาโหวตนายกฯ รอบแรก ขณะที่ กกต. ส่งศาล รธน. วินิจฉัยคุณสมบัติคุณพิธา กรณีถือหุ้นไอทีวี พร้อมเสนอยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. และศาลฯ มีมติรับคำร้องหาเสียงแก้ ม.112 ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองหรือไม่ ให้แก้ข้อกล่าวหาใน 15 วัน• กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกระบุหากรัฐบาลไม่ตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อ จำเป็นต้องปรับราคาค่าขนส่งเพิ่ม 10% คาดกระทบราคาสินค้าขึ้นตาม• สหรัฐรายงานดัชนี CPI ทั่วไป มิ.ย. +3%YoY ต่ำกว่าคาดและต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน มิ.ย. +4.8%YoY ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาด Fed อาจจะยุติวงจรการปรับขึ้น ดบ. ในไม่ช้า• Beige Book ระบุกิจกรรมทาง ศก. โดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ปลาย พ.ค. แต่ยังประเมินอาจมีการเติบโตที่ชะลอตัวในระยะถัดไป• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางที่คาดว่าลดลง 1 ล้านบาร์เรล• ฮ่องกงเตรียมระงับนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จว. ของญี่ปุ่นรวมโตเกียว หลังเตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีที่บำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก มองเป็น sentiment ลบต่อ TU• อีลอน มัสก์ ประกาศตั้งบริษัทใหม่วานนี้ โดยใช้ชื่อว่า xAI มุ่งเน้นการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสได้รับแรงกดดันจาก Beige Book ของเฟดซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มของกิจกรรมเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว อีกทั้งเงินเฟ้อของสหรัฐและอังกฤษที่ปรับตัวลงค่อนข้างช้า ขณะที่ในประเทศอยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้าผลการโหวตนายกรัฐมนตรีของไทยในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “เน้นตั้งรับ และ Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “เน้นตั้งรับ และ Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP BDMS BEM2. หุ้นพื้นฐานดีซึ่งคาดยังมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2023 มากกว่าปีละ 5% เลือก TISCO LH AP3. นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำซื้อเก็งกำไรหาก SET ปรับลงมาแถว 1450 จุด สำหรับหุ้นที่คาดมีโอกาสฟื้นตัวหลังราคาปรับลงลึกจนซื้อขายด้วย PER และ PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1SD เลือก CRC GULF SCGPขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) หลังมองมีโอกาสที่ตลาดจะปรับลดคาดดการณ์กำไรลงหลังประกาศงบ 2Q66 ซึ่งคาดภาพรวมอ่อนทั้ง YoY และ QoQ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT) และ 3) หุ้นเทคโนโลยี (DELTA HANA KCE) จากความชัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน อีกทั้งผลการดำเนินงาน 2Q66 ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า
Daily Focus

TISCO 2Q66 ประกาศกำไรสุทธิ 1.85 พันลบ. (+3%QoQ, ทรงตัว YoY) เป็นไปตามคาด ขณะที่วันนี้เราปรับเรทติ้งขึ้นสู่ OUTPERFORM เนื่องจากผลตอบแทนจากเงินปันผลดูน่าสนใจที่ระดับ 8.2% ต่อปี หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง 7% จากจุดสูงสุด YTDGULF ช่วงสั้นมองได้อานิสงส์ Bond Yield ปรับตัวลง ขณะที่ 2H66 คาดกำไรปกติจะโต YoY และ HoH จากกำลังผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP (1,325 MW) ที่ COD ใน มี.ค. และ ต.ค. 66 และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯที่เริ่มรับรู้รายได้ มี.ค. 66

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย – ถึงเวลาหันเรดาร์สู่หุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยIVL – พรีวิว 2Q66: คาดกำไรทรงตัวTISCO – 2Q66: ผลประกอบการออกมาดี; ปรับเรทติ้งขึ้น

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Daily230713_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5