Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

เงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 หนุนจากราคาพลังงานและอาหารสด

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|7 Aug 25 7:43 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุประเด็นเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. หดตัว -0.7%YoY นำโดยหมวดขนส่งและการสื่อสาร และ หมวดอาหารสดและพลังงาน

  • ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเดือน ก.ค. 2025 ลดลง -0.70% YoY หดตัวมากกว่าที่เราคาดที่ -0.1% และมากกว่าตลาดคาดที่ -0.4% โดยหดตัวมากกว่าเดือนก่อนที่ -0.25 โดยปัจจัยฉุดเงินเฟ้อหลัก ได้แก่ ราคาพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า) ที่ลดลงจากราคาน้ำมันโลกและมาตรการลดค่า Ft, ราคาผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่ ที่ลดลงจากผลผลิตที่ออกมากตามฤดูกาลและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมถึงราคาของใช้ส่วนบุคคลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

  • โดยเงินเฟ้อในหมวดการขนส่งและการสื่อสารหดตัว -3.87% (vs. -3.23% เดือนก่อน) จากราคาน้ำมันที่ลดลง และ หมวดอาหารสดและพลังงาน หดตัว -3.82% (vs. -2.82% เดือนก่อน) จากกลุ่มไข่ไก่ และผักผลไม้สด

  • เรามองว่า เงินเฟ้อไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มยังคงทรงตัวอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท. จาก (1) Momentum ราคาพลังงานในตลาดโลก ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำหรือลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวลง และส่งผลให้ราคาค้าปลีกน้ำมันในประเทศชะลอตัว (2) ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายหมวดยังถูกกดดันจากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการแข่งขันด้านราคาที่สูง (3) ต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาสินค้ากึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่ราคาส่งออกยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตรึงราคาสินค้าได้ต่อเนื่องทั้งนี้ (4) ราคาผักและผลไม้ที่ลดลงจากผลผลิตที่ออกมามากในปีนี้ กดดันเงินเฟ้อในหมวดอาหารสด

  • เรามองว่าเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2025 จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.5% YoY ใกล้เคียงค่ากลางของกรอบคาดการณ์กระทรวงพาณิชย์ (0.0–1.0%)

  • ทำให้ นโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ เราจึงคงมุมมองว่า ธปท. ควรปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งภายในปี 2025 รวม 0.50% นำดอกเบี้ยลงสู่ ระดับ 1.25% ต่อปี

 

เงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. หดตัว -0.7%YoY ลดลงมากกว่าตลาดคาดที่ -0.4% และมากกว่าที่เราคาดที่ -0.1%

  • ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเดือน ก.ค. 2025 ลดลง -0.70% YoY หดตัวมากกว่าที่เราคาดที่ -0.1% และมากกว่าตลาดคาดที่ -0.4% โดยหดตัวมากกว่าเดือนก่อนที่ -0.25 โดยปัจจัยฉุดเงินเฟ้อหลัก ได้แก่ ราคาพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า) ที่ลดลงจากราคาน้ำมันโลกและมาตรการลดค่า Ft, ราคาผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่ ที่ลดลงจากผลผลิตที่ออกมากตามฤดูกาลและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมถึงราคาของใช้ส่วนบุคคลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

  • กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาส 3 จะยังทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 2 โดยมีปัจจัยฉุดเงินเฟ้อ: 1) ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกลดลงจากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ และความตึงเครียดจากความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอยู่ในระดับจำกัด 2) ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการลดค่าไฟฟ้า (งวด พ.ค.–ส.ค.) โดยปรับลดค่า Ft ลง 17 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเหลือ 3.98 บาท/หน่วย 3) ราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนมาก จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย 4) ค่าบริการด้านการท่องเที่ยวปรับลดลงจากสถานการณ์ชะลอตัวของภาคท่องเที่ยว และโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง

  • ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ: 1) ราคาสินค้าเกษตรและวัตถุดิบอาหารบางรายการยังมีแนวโน้มปรับขึ้น เช่น เนื้อสุกร มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช อย่างไรก็ดี น้ำมันพืช และเนื้อสุกร ราคาเริ่มปรับลง 2) อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ภายใต้นโยบาย Reciprocal Tariffs มีความชัดเจนมากขึ้น และอยู่ในระดับต่ำกว่ารอบก่อน ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกทยอยฟื้นตัว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตาม
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5