Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

Macro Making Sense – ภาษีการค้าทำสหรัฐเสี่ยง Stagflation แต่เป็นบวกต่องบประมาณและความชัดเจนภาคธุรกิจ INVX คาดสภาพัฒน์จะปรับเป้า ศก. ไทยขึ้น ยอดค้าปลีกสหรัฐยังขยายตัว แต่ต่อไปเสี่ยงขึ้น

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|18 Aug 25 8:16 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปผลกระทบของภาษีการค้าต่อเศรษฐกิจโลก คาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จาก GDPnow ยอดค้าปลีกสหรัฐขยายตัวดี แต่ความเสี่ยงเริ่มมากขึ้น

  • สรุปผลกระทบของภาษีการค้าต่อเศรษฐกิจโลก: สหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษี "Reciprocal Tariff" โดยประเทศพัฒนาแล้วอย่างยุโรปและญี่ปุ่นถูกเก็บประมาณ 15% (แลกกับการลงทุนและเปิดตลาด) ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ถูกเก็บ 19-20% (แลกกับการควบคุม Transshipment และการซื้อสินค้าอเมริกัน) ส่วนจีน อินเดีย และบราซิลยังอยู่ในภาวะไม่แน่นอนโดยมีการต่ออายุเจรจา 90 วัน อย่างไรก็ตาม การที่อัตราภาษีจริงลดลงมากจากที่ประกาศเดิม การเลื่อนระยะเวลากว่า 100 วันให้ภาคเอกชนปรับตัว และความชัดเจนว่าเป็นเครื่องมือต่อรองแบบครอบคลุม (ไม่ใช่แค่ดุลการค้า) ทำให้หลีกเลี่ยงการตอบโต้รุนแรงและสร้างเสถียরภาพการค้าโลกมากขึ้น
  • ด้านผลต่องบประมาณสหรัฐ Yale Budget Lap มองว่า การปรับขึ้นภาษีจาก 2% ในปี 2024 เป็น 18.6% ในปี 2025 จะสร้างรายได้เพิ่ม 1.4 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้และ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปี แต่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.2% ต่อปีในปี 2026 และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.8% ในระยะสั้น 1.5% ในระยะยาว ทั้งนี้ INVX คาดว่าเงินเฟ้อจะสูงถึง 3.6% ปลายปี 2025 ทำให้ Fed ไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้
  • ผลกระทบภาษีการค้าต่อการลงทุนแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ FDI ในจีนลดลงจาก 3.44 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 8.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในยุคทรัมป์ 1.0 (2021-23) ขณะที่อเมริกาเหนือเพิ่มจาก 2 แสนล้านดอลลาร์เป็น 4.5 แสนล้านดอลลาร์ และอาเซียนเติบโต 4% ต่อปี สะท้อนกระแส Re-shoring และ Friend-shoring ที่จะยิ่งทวีความรุนแรงในยุค Trump 2.0 โดยคาดว่าเอเชียและไทยจะได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเปลี่ยนผ่านนี้
  • คาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2: ตลาดการเงินและภาคธุรกิจจับตาการประกาศ GDP ไตรมาส 2 และแนวโน้มปี 2568 ของสศช.ในวันที่ 18 ส.ค. คาดว่าจะปรับคาดการณ์เพิ่มขึ้นจากกรอบเดิม 1.3-2.3% (ค่ากลาง 1.8%)
  • โดยอาจปรับกรอบล่างให้สูงขึ้นทำให้ค่ากลางแตะ 2% หลังจากการส่งออกครึ่งปีแรกโตแรง 15% มูลค่า 166,851.9 ล้านดอลลาร์ และอัตราภาษีสหรัฐที่ชัดเจนที่ 19% ซึ่งใกล้เคียงประเทศคู่แข่งในภูมิภาคทำให้แรงกดดันลดลง โดยหน่วยงานต่างๆ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์แล้ว ธปท.เป็น 2.3% สศค.เป็น 2.2% และ IMF คงไว้ที่ 1.8%
  • ขณะที่ INVX มองว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 น่าจะขยายตัว 3.2% ต่อเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัว การลงทุนเพิ่มขึ้น และการบริโภคยังขยายตัว แต่เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนแอในเดือนมิถุนายนจากการส่งออกที่ชะลอ ภาคเกษตรหดตัว การผลิตลดลง และการท่องเที่ยวหดตัว ทำให้คาดว่าไตรมาส 3-4 จะชะลอลงเหลือเฉลี่ย 0.4% และ GDP ทั้งปีขยายตัวประมาณ 1.8%
  • ยอดขายปลีกขยายตัวต่อเนื่องแต่ความเสี่ยงเริ่มมากขึ้น: ยอดขายปลีกสหรัฐฯ เติบโต 0.5% ในกรกฎาคมด้วยแรงหนุนจากการขายรถยนต์ที่พุ่ง 1.6% (จากการรีบซื้อรถไฟฟ้าก่อนสิทธิประโยชน์ภาษีหมดอายุ 30 ก.ย.) และการขายออนไลน์ที่เพิ่ม 0.8% จากแคมเปญ Amazon ที่ขยายเป็น 96 ชั่วโมง แต่สัญญาณการชะลอตัวเริ่มปรากฏชัดเจน เมื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในสิงหาคม ดัชนีเงื่อนไขการซื้อสินค้าคงทนดิ่งสู่ระดับต่ำสุดรอบปี และการใช้จ่ายร้านอาหาร-บาร์หดตัว 0.4% ขณะที่ราคานำเข้าพุ่ง 0.4% (โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค) แสดงให้เห็นว่าผู้ส่งออกไม่ได้ลดราคาชดเชยภาษีนำเข้าตามที่รัฐบาลทรัมป์คาดการณ์ ประกอบกับความคาดหวังเงินเฟ้อที่พุ่งจาก 4.5% เป็น 4.9% และการผลิตในโรงงานที่หยุดนิ่ง ทำให้ Fed มีแนวโน้มไม่ลดดอกเบี้ยในกันยายน ท่ามกลางตลาดแรงงานที่อ่อนแอและภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงที่การบริโภคและการผลิตจะชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลัง เมื่อผลกระทบเต็มรูปแบบของภาษีนำเข้าเริ่มส่งผ่านสู่ผู้บริโภค
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5