Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

ทรัมป์ขยายหยุดเก็บภาษีนำเข้ากับจีนเพิ่มอีก 90 วัน อนาคตสงครามยูเครน การวิเคราะห์การเมืองไทยล่าสุด

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|13 Aug 25 8:22 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปทรัมป์ขยายหยุดเก็บภาษีนำเข้ากับจีนเพิ่มอีก 90 วัน อนาคตสงครามยูเครน การวิเคราะห์การเมืองไทยล่าสุด

  • ทรัมป์ขยายหยุดเก็บภาษีนำเข้ากับจีนเพิ่มอีก 90 วัน + ข้อตกลงชิป AI: ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามขยายข้อตกลงหยุดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 90 วัน หลังข้อตกลงเดิมที่เริ่มตั้งแต่พฤษภาคม 2025 กำลังจะหมดอายุ โดยข้อตกลงนี้ลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 145% เหลือ 30% และจีนลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 10% พร้อมกลับมาส่งออกแม่เหล็กแร่หายาก ขณะเดียวกันบริษัท Nvidia และ AMD ได้ตกลงจ่าย 15% ของรายได้จากการขายชิป AI ให้จีนแก่รัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกกับใบอนุญาตส่งออกชิป H20 และ MI308 การขยายเวลานี้ช่วยคลายความตึงเครียดทางการค้าและเปิดโอกาสให้ทั้งสองประเทศหารือประเด็นอื่น เช่น การลักลอบขนเฟนทานิล การซื้อพลังงานจากรัสเซีย-อิหร่าน และการดำเนินธุรกิจของสหรัฐฯ ในจีน รวมถึงอาจเปิดทางให้ทรัมป์เยือนจีนเพื่อพบประธานาธิบดีสี จิ่นผิงในช่วงปลายตุลาคม แม้ว่าจะมีการผ่อนคลาย แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนในระยะยาวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ
  • อนาคตสงครามยูเครนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก: ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศการประชุมสุดยอดกับปูตินในอลาสกาวันที่ 15 สิงหาคม 2025 เป็น "การประชุมสำรวจความเป็นไปได้" หลังปูตินเสนอการหยุดยิงจำกัดทางอากาศและทางทะเลเป็นการสร้างบรรยากาศก่อนการเจรจา ขณะที่เซเลนสกียืนกรานไม่ยอมเสียดินแดนและต้องการเข้าร่วม NATO เพื่อความปลอดภัย
  • เราคาดว่า การประชุมสุดยอดอลาสกามีแนวโน้มจะจบลงด้วยความคืบหน้าที่จำกัด โดยผลลัพธ์ที่น่าจะเป็นมากที่สุดคือการตกลงในหลักการของการหยุดยิงบางส่วนและการจัดตั้งกลไกการเจรจาต่อเนื่อง มากกว่าข้อตกลงสันติภาพที่ครอบคลุม
  • โดยความแตกต่างทางสาระสำคัญระหว่างจุดยืนของรัสเซียกับยูเครนยังคงกว้างเกินไปสำหรับการบรรลุเป้าหมายสันติภาพในระยะสั้น โดยเรามองว่า ทรัมป์น่าจะใช้การประชุมนี้เป็นการประเมินความจริงใจของปูตินและเปิดช่องทางการทูตสำหรับการเจรจาในอนาคต ผลที่ตามมาจะเป็นการขยายระยะเวลาการเจรจาออกไปอีก 3-6 เดือน พร้อมกับการลดความรุนแรงของการต่อสู้บางประการ แต่ไม่ใช่การยุติสงครามโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตลาดการเงินโลกจะตอบสนองในเชิงบวกต่อสัญญาณของการเจรจา แม้จะไม่มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
  • การวิเคราะห์การเมืองไทยล่าสุด: การเมืองไทยอยู่ในช่วงความผันผวนสูงเมื่อมีความเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีนายกรัฐมนตรีเร็วขึ้น หลังจากที่นายกฯ ได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณประจำปี 2569 ในวันที่ 13-15 สิงหาคม ทั้งนี้ เรายังคงมีมุมมองทางการเมืองใน 3 สถานการณ์หลัก คือ (1) ไม่มีการยุบสภา (ความเป็นไปได้ 15%) หากศาลตัดสินให้แพทองธารไม่ผิด โดยในกรณีนี้ จะมี 5 ใน 9 องค์คณะของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินเป็นคุณ (เพิ่มขึ้นจาก 2 ใน 9 ที่มีมติอนุญาตให้นายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป) (2) ยุบสภาก่อนงบประมาณผ่าน (35%) ซึ่งจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ -0.3 ถึง -0.5% ต่อปี เนื่องจากการบริหารราชการแบบปกติทำได้ยาก และจะต้องเริ่มกระบวนการจัดทำงบประมาณใหม่ หรือ (3) ยุบสภาหลังงบประมาณผ่านแล้ว (50%) ที่จะมีผลกระทบน้อยกว่าที่ -0.0 ถึง -0.3% ต่อปี ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป ได้แก่ การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ในการรักษาความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อาจตามมา
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5