Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

PMI โลกชะลอตัวลงยกเว้นในยูโรโซน PMI สหรัฐฯ ชี้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น พาวเวลล์ย้ำสนใจตลาดแรงงานมากกว่าเงินเฟ้อ

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|24 Sep 25 8:13 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปประเด็นดัชนี PMI เดือน ก.ย. ที่ชะลอตัวลงทั่วโลก และสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวลล์ ที่ Rhode Island 

  • ดัชนี Composite PMI (Prelim) เดือน ก.ย. ชะลอตัวลงทั่วโลกยกเว้นในยูโรโซนที่ได้รับแรงหนุนจากภาคบริการที่แข็งแกร่ง
  • ดัชนี PMI สหรัฐฯ เดือน ก.ย. ชะลอตัวลง ท่ามกลางเงินเฟ้อฝั่งต้นทุนที่เร่งตัวขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนได้ การขยายตัวชะลอลงเป็นเดือนที่สอง แต่ยังแข็งแกร่งสุดรายไตรมาสตั้งแต่ปลายปี 2024 ภาคบริการชะลอสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ มิ.ย. ส่วนการผลิตชะลอจากจุดสูงสุดในรอบ 39 เดือน คำสั่งซื้อใหม่โตช้า การจ้างงานชะลอลง และงานคั่งค้างเพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ต้นทุนพุ่งจากภาษีนำเข้า แต่การส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาขายจำกัดเพราะอุปสงค์อ่อนและการแข่งขันสูง ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการดีขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน
  • ยูโรโซน – PMI เดือน ก.ย. ขยายตัวมากที่สุดในรอบ 16 เดือน โดยได้แรงหนุนหลักจากภาคบริการที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในปีนี้ คำสั่งซื้อใหม่โดยรวมทรงตัว การผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากการเร่งเคลียร์งานคั่งค้าง ด้านต้นทุนการผลิตขยายตัวในอัตราต่ำกว่าค่าเฉลี่ย กดดันให้ราคาขายสินค้าปรับลดลงตาม อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
  • สหราชอาณาจักร - ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. จากการอ่อนแรงของภาคบริการและการหดตัวที่รุนแรงขึ้นในภาคการผลิต
  • อินเดีย - คำสั่งซื้อใหม่แม้ชะลอลงเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวดีขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หนุนโดยการขยายกำลังการผลิตและมาตรการลดภาษี GST
  • นายเจอโรม พาวเวลล์ ได้พูดในงาน the Greater Providence Chamber of Commerce 2025 Economic Outlook Luncheon, Warwick, Rhode Island ระบุว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงสองด้านโดยเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงด้านขาขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานมีความเสี่ยงด้านขาลง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ท้าทาย และเน้นย้ำว่า “ไม่มีเส้นทางที่ปราศจากความเสี่ยง” หากผ่อนคลายเร็วเกินไป อาจทำให้การแก้ปัญหาเงินเฟ้อไม่สมบูรณ์ แต่หากคงนโยบายเข้มงวดนานเกินไป อาจทำให้ตลาดแรงงานอ่อนแอโดยไม่จำเป็น การดำเนินนโยบายในระยะข้างหน้ายังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลและแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยไม่มีเส้นทางที่กำหนดตายตัว Fed ยืนยันที่จะบรรลุ Dual mandate ในการ รักษาการจ้างงานสูงสุด และ ดึงเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมาย 2%
  • ดัชนี PMI ล่าสุดของสหรัฐฯ สะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เรามองว่า Fed น่าจะต้องการเร่งการปรับลดดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น เพื่อตอบสนองต่อตลาดแรงงานที่อ่อนกำลังลง ขณะที่เงินเฟ้อยังไม่เป็นความเสี่ยงมากนักในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้สู่ระดับเฉลี่ย 3.63% (อยู่ในช่วงคาดการณ์ 3.50–3.75%) แม้แรงกดดันเงินเฟ้อยังไม่รุนแรง แต่เรายังคงประเมินว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไป โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะทยอยเพิ่มขึ้นสู่ 3.3% ภายในสิ้นปีนี้และคาดว่าแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จะทำให้เงินเฟ้ออยู่ระดับใกล้เคียงกับดอกเบี้ย และหากประธาน Fed ท่านใหม่ (ที่จะมาแทนพาวเวลล์) ยังคงยึดมั่นในวินัยการเงิน ก็จะทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5