สรุปประเด็นสัญญาณเตือนเศรษฐกิจไทย: เมื่อสินเชื่อหดตัวครั้งแรกในรอบ 21 ปี
ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ดิ่งหนักสุดรอบ 2 ปี แนวโน้มสงครามรัสเซีย-ยูเครนในมุมมองของเรา
สัญญาณเตือนเศรษฐกิจไทย: เมื่อสินเชื่อหดตัวครั้งแรกในรอบ 21 ปี สัญญาณเตือนภัยเศรษฐกิจไทยปรากฏชัดขึ้นเมื่อยอดสินเชื่อภาคเอกชนหดตัวครั้งแรกในรอบ 21 ปี (-0.04%) โดยเฉพาะในระบบธนาคารพาณิชย์ที่หดตัวถึง 1.67% สะท้อนความอ่อนแอของกำลังซื้อและความระมัดระวังในการปล่อยกู้ โดยกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้ง SMEs (-3.04%) และภาคครัวเรือน (-2.84%) ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ยังเติบโตได้ 1.58% สถานการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น และ GDP ไทยที่โตต่ำกว่าคาด (3.2%) ส่งผลให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งหาก ธปท. ลดดอกเบี้ยจริง อาจเป็นการยอมโอนอ่อนผ่อนตามสัญญาณจากหลายฝ่ายที่มองว่าดอกเบี้ยนโยบายสูงเกินไป โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาล และภาคเอกชน ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับช่วงก่อนการประกาศลดดอกเบี้ยในการประชุม กนง. ในเดือน ต.ค. 2567อย่างไรก็ตาม ในการคาดการณ์หลัก เรายังมองว่า กนง. จะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
PMI ประเทศพัฒนาแล้วชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยสหรัฐฯ มีดัชนี PMI รวมลดลงเหลือ 50.4 ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน และภาคบริการหดตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี ท่ามกลางความกังวลเรื่องนโยบายการค้าของทรัมป์และเงินเฟ้อที่อาจกลับมา ขณะที่ยุโรปก็มี PMI ที่ 50.2 เกือบหยุดนิ่ง โดยมีความแตกต่างระหว่างเยอรมนีที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและฝรั่งเศสที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจทรุดหนัก ภายใต้แรงกดดันจากต้นทุนพลังงานที่สูงและความไม่แน่นอนทางการค้า สวนทางกับเอเชียที่เริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตเร่งตัวขึ้นทั้งในอินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
แนวโน้มสงครามรัสเซีย-ยูเครนในมุมมองของเรา โอกาสในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนกำลังชัดเจนขึ้น หลังการเจรจาระหว่างทีมทรัมป์และรัสเซียที่ซาอุดีอาระเบีย โดยทรัมป์ต้องการจบสงครามเร็วเพื่อใช้เป็นผลงานทางการเมืองและหวังลดเงินเฟ้อผ่านราคาพลังงาน ขณะที่ปูตินฉวยโอกาสนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่คือการบีบให้ยูเครนเป็นรัฐกันชน การเรียกร้องให้ยอมรับดินแดนที่ยึดครอง และการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ส่วนยูเครนและเซเลนสกี้กำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่จากการถูกทรยศโดยพันธมิตร โดยทรัมป์ใช้กลยุทธ์กดดันผ่านการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งและลดความน่าเชื่อถือของเซเลนสกี้ ผลลัพธ์ที่น่าจะเกิดขึ้นคือ รัสเซียและสหรัฐจะเป็นผู้ชนะจากการได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ยุโรปได้ก๊าซธรรมชาติกลับมา ขณะที่ยูเครนต้องสูญเสียดินแดน 4 รัฐและอาจต้องเปลี่ยนตัวผู้นำ