Keyword
Wealth Weekend

Wealth Weekend - 3 ก.พ. 2566

3 Feb 23 9:00 AM
Program_Thumbnail-08

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ ตลาดการเงินปรับตัวดีขึ้นจาก (1) Fed ที่ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. และไม่ได้ปิดประตูการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้ตลาดมองว่า Fed ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ย (2) IMF ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของจีน ยุโรปและสหรัฐ ภาพต่าง ๆ ทำให้เกิดกระแส Risk on และทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง (3) PMI ของทางการจีนที่ปรับดีขึ้นมาก ทั้งภาคการผลิต และภาคบริการและก่อสร้าง ซึ่งเป็นผลจากการเปิดเมืองทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น (4) ราคาบ้านสหรัฐตกต่ำต่อเนื่อง โดยดัชนี Case-Shiller Index หดตัว 0.6% ต่อเดือน 5 เดือนติด ขณะที่ขยายตัว 7.7% ต่อปี ซึ่งเป็นการลดลงจากระดับสูงสุดที่กว่า 20% ในปีก่อน บ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วงต่อไป (5) เศรษฐกิจยุโรปที่ฟื้นตัวดีเกินคาดในไตรมาส 4 โดย GDP ของยูโรโซน ขยายตัว 0.1% ต่อไตรมาส และ 1.9% ต่อปี เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2565 ยูโรโซนมีการขยายตัว 3.5% แข็งแกร่งกว่าสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม การขยายตัวที่ดีในไตรมาส 4/22 ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก GDP ไอร์แลนด์ที่ขยายตัวดี ขณะที่ภาพของเศรษฐกิจหลัก เช่น เยอรมนี เริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. หดตัวมากขึ้นที่ -6.4% ขณะที่ GDP เยอรมนีและอิตาลีหดตัวในไตรมาส 4/22 ขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ ส่งสัญญาณลบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งจาก (1) การจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือน ม.ค. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1.06 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 1.78 แสนตำแหน่ง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากอากาศแปรปรวนในสหรัฐ ทั้งพายุหิมะในภาคกลางและอุทกภัยในแคลิฟอร์เนีย (2) ดัชนีภาคการผลิต ISM ของสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่ 3 สู่ระดับ 47.4 ในเดือน ม.ค. จาก 48.4 ในเดือน ธ.ค. จากคำสั่งซื้อที่ลดลง (3) ที่ประชุม OPEC+ มีมติคงนโยบายปรับลดกำลังการผลิตลงที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันถึงสิ้นปี (4) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BOE) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 bps สู่ระดับ 2.5% และ 4.0% ตามลำดับ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอลงแต่ยังอยู่ในระดับสูงที่ 9.2% และ 10.5% ตามลำดับ และ (5) ปธน. ไบเดน เตรียมลงนามคำสั่งห้ามผู้ผลิตสหรัฐขายสินค้าทุกชนิดให้ Huawei ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

ตลาดหุ้นโลก

สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ในช่วงท้ายสัปดาห์จาก Fed ที่ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. ส่งสัญญาณว่ากระบวนการทำให้เงินเฟ้อลดลง (disinflationary process) ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และไม่ได้ปิดประตูการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้ตลาดมองว่า Fed ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ย ด้าน IMF ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของจีน ยุโรปและสหรัฐ ภาพต่าง ๆ ทำให้เกิดกระแส Risk on และทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นไทย

สัปดาห์นี้ภาพรวมการลงทุนทรงตัว จากการขาดปัจจัยใหม่ ขณะที่ดัชนีผันผวนจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่และซื้อกลับในวันถัดมา ขณะที่ IMF คงประมาณการเศรษฐกิจไทย ที่ 3.7% ขณะที่ ธปท. ระบุว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวต่อเนื่องจากภาคบริการที่ฟื้นตามนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระบุดัชนีภาคอุตสาหกรรมหดตัวมากสุดในรอบ 28 เดือนที่ -8.2% จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น ด้าน ครม. อนุมัติปรับขึ้นค่าแรง 3 สาขา 17 อาชีพสู่วันละ 465-715 บาท

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงรุนแรงมาอยู่ที่ 3.42% จากการที่ตลาดมองว่า Fed ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับลดลงมาที่ 4.11% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี ทรงตัวที่ -69 bps

ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 2.45% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 1.78% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 22,414 ล้านบาท

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวอยู่ที่ 82.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก OPEC ยังคงกำลังการผลิต ด้านราคาทองคำ (spot) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,970 ดอลลาร์

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าต่อเนื่องที่ 101.3 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ 128.96 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.10 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าค่าลงที่ 32.85 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 6.71 หยวน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5