INVX Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 28 ก.พ. 2568

 

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับลดลง จากความกังวลต่อท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน รวมไปถึงยุโรป รวมถึงสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ภายหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัว หลังยอดขายบ้านหดตัวแรงกว่าคาด ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำกว่าคาด และตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด สะท้อนความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐ นอกจากนั้นสหรัฐเตรียมออกกฎหมายควบคุมส่งออกชิปไปจีน เพื่อลดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน กดดันหุ้นกลุ่มเซมิฯ โดย Nvidia แม้จะประกาศงบ 4Q24 และคาดการณ์ 1Q25 ดีกว่าคาด แต่หุ้นกลับอ่อนตัวลงสะท้อนความกังวลต่อนโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายในจีน ทำให้กลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง 5.6%  กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลดลง 3% เป็นผลจากกำลังซื้อและยอดขายกลุ่มยานยนต์ที่อ่อนแอ ด้านตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งแรงหนุนจากความชัดเจนจากผลการเลือกตั้งในเยอรมนี อย่างไรก็ตามแรงกดดันที่มาจากประเด็นสงครามการค้าหลัง ปธน. ทรัมป์ส่งสัญญาณจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่นๆจากยุโรปในอัตรา 25% แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ตลาดหุ้นจีนที่ได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังด้านเศรษฐกิจในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติประจำปีในวันที่ 5  มี.ค. ตลาดหุ้นไทยปรับลดต่อเนื่องกดดันจากทิศทางผลประกอบการ 4Q24 ที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากกระแสเงินไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่อง แม้กนง. จะลดดอกเบี้ยเหนือความคาดหมายของตลาด ด้านราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากความกังวลอุปสงค์ชะลอกดดันจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น 

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดสหรัฐปรับตัวลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชะลอแรงขึ้น โดย PMI ประเทศพัฒนาแล้วชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะ PMI ภาคบริการของสหรัฐที่ต่ำสุดในรอบ 25 เดือน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองและบ้านใหม่ลดลงแรงด้วยเช่นกัน ประกอบกับความสับสนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจมากขึ้น

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับลดลง จากผลประกอบการ 4Q67 ของบริษัทจดทะเบียนนอกภาคธนาคารหลายรายที่ออกมาต่ำกว่าคาด แม้ว่า (1) ผลการประชุมกนง.ที่มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps เหนือคาด ขณะที่ปรับเป้า GDP ลง(2) มูลค่าส่งออกไทย ขยายตัว 13.6%YoY สูงกว่าตลาดคาด ผลจากการส่งออกทองคำและโลหะมีค่า รวมถึงการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ ก่อนมาตรการกีดกันการค้าจะมีผล 

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลดลงที่ 4.24% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีลดลงแรงที่ 4.03% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 21 bps 
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.16% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.96% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 5,517 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงจากสัปดาห์ก่อนสู่  74.01  ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลความต้องการพลังงานที่อาจชะลอลงทั่วโลกจากสงครามการค้าที่จะยกระดับขึ้น ด้านราคาทองคำ (Spot) ลดลงสู่ 2,876.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่ 107.2 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 149.4 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.04 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 34.08 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.29 หยวน