Program_Thumbnail-08
PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 7 มี.ค. 2568

7 Mar 25 12:58 PM
สรุปสาระสำคัญ

ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมา

  • การจ้างงานภาคเอกชนต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.
  • ผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดตั้งแต่การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน หลังการประกาศแผนยุติ Debt break และตั้งกองทุน 5 แสนล้านยูโรเพื่อลงทุนด้านกลาโหมและโครงสร้างพื้นฐาน
  • ทรัมป์ยังคงมุ่งเน้นใช้ Tariff เพื่อให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่ ขณะที่จีนเตรียมประเทศสำหรับการเปลี่ยนแปลงในรอบศตวรรษ

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังปธน.ทรัมป์ประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าทั้ง 3 ประเทศออกมาตรการตอบโต้ อย่างไรก็ตามล่าสุด ทรัมป์ประกาศว่าจะชะลอเก็บภาษีรถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกอีกหนึ่งเดือน นอกจากนั้นดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนก.พ.ชะลอลงต่ำกว่าคาด การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ตลาดเข้าสู่ภาวะ risk off โดย VIX Index พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบปีนี้ ด้าน ECB ปรับลดดอกเบี้ย 25 bps ตามคาด เยอรมนีประกาศเตรียมจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5 แสนล้านยูโร ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ยังเป็นตลาดที่ปรับขึ้นเด่น YTD  ด้านตลาดหุ้น EM ปรับขึ้น 3.1% หลังรัฐบาลจีนประกาศตั้งเป้าหมายการเติบโตของ  GDP ปีนี้ที่ 5%, เพิ่มเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณเป็น 4% จาก 3%, เตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษ มูลค่า 1.3 ล้านล้านหยวน พร้อมให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการสนับสนุนการอุปโภคบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1200 จุด ต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี แรงกดดันจากอุปสงค์ภายในประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังเปราะบาง  รวมถึงความกังวลจากประเด็นสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น ด้านตลาดน้ำมันอ่อนตัวลงกดดันจากการมติเพิ่มการผลิตของกลุ่ม OPEC เดือนละ + 1.38 แสนบาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. 2568 เป็นเวลา 18 เดือน   

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดหุ้นโลกรับแรงกดดันจากการเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา และการประกาศมาตรการตอบโต้จากทั้ง 3 ประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลัง ISM รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.ชะลอลง และการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยยังคงตกต่ำ จาก ปัจจัยด้านความเชื่อมั่นเศรษฐกิจที่ยังต่ำ โดยรมช. คลังมอง SET Index ที่ปรับลงอย่างต่อเนื่องเป็นจังหวะเข้าซื้อ เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังไม่เปลี่ยนแปลงและยืนยันตัวเลขเศรษฐกิจไทยเกือบทุกตัวอยู่ในช่วงขาขึ้น อย่างไรก็ตาม กกร. ประเมินเศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงสูงจากสงครามการค้า ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังเปราะบาง 

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวที่ 4.26% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีลดลงแรงที่ 3.94% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 32 bps 
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.22% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.91% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,216 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงจากสัปดาห์ก่อนสู่  69.46  ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลัง OPEC+ เดินหน้าการเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนใน เม.ย. นี้ และสหรัฐฯ มีท่าทีผ่อนคลายการคว่ำบาตรรัสเซีย ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้นสู่ 2,910.99 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงแรงที่ 104.2 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 148.0 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.04 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 33.83 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.25 หยวน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5