Keyword
Program_Thumbnail-08
PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – ตลาดหุ้นหลักทำ ATH ซื้อเพื่อไปต่อหรือรอย่อก่อนค่อยสะสมเพิ่ม

15 Aug 25 10:05 AM
สรุปสาระสำคัญ
  • เงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐต่ำกว่าคาด แต่เงินเฟ้อผู้ผลิตสูงกว่าคาด สะท้อนถึงอะไร 
  • สรุปผลประกอบการ 2Q25 ของหุ้นสหรัฐและไทย ปรับกลยุทธ์อย่างไร
  • กนง. ลดดอกเบี้ย สัญญาณผ่อนคลายมากขึ้น ลงทุนยังไง

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับเพิ่มขึ้น หลายตลาดทำจุดสูงสุดใหม่ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น จากกระแสเปิดรับความเสี่ยงในช่วงต้นสัปดาห์ ที่ได้แรงหนุนจาก 1) การเลื่อนเจรจาข้อสรุปการค้าสหรัฐและจีนออกไปอีก 90 วัน เปิดทางให้ทั้ง 2 ประเทศมีเวลาหารือประเด็นอื่น เช่น ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนเฟนทานิล, การซื้อพลังงานจากรัสเซีย–อิหร่าน และการดำเนินธุรกิจของสหรัฐฯ ในจีน 2) ผลประกอบการในภาพรวมออกมาดีกว่าที่คาด และ 3) ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ตอกย้ำให้ตลาดเชื่อว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตามหลังเงินเฟ้อ PPI ออกมาสูงกว่าคาดมาก สะท้อนภาวะที่ผู้ผลิตต่างๆ เริ่มส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้าไปยังผู้บริโภค ทำให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยถูกปรับลงมาบ้าง ด้านตลาดหุ้น EM ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปัจจัยหนุนส่วนหนึ่งเกิดจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ส่งผลให้มีกระแสเงินไหลมายังตลาดเกิดใหม่  และความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ที่ล่าสุดรัฐบาลประกาศ 2 โครงการใหม่เพื่ออุดหนุนดอกเบี้ยสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจ  ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ก.ค. ยังบ่งชี้การชะลอตัวรอบด้าน ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก, การลงทุนสินทรัพย์ถาวร และอัตราว่างงาน  ในส่วนของตลาดหุ้นไทยปรับตัวออกด้านข้าง (เพิ่มขึ้นเล็กน้อย) หลังปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่เดือนที่ผ่านมา และเก็งกำไรการลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นไปตามคาด โดย กนง. มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เป็น 1.50% เหตุเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มชะลอ และเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ด้านราคาน้ำมันแกว่งตัวในกรอบรอผลการเจรจาสหรัฐ-รัสเซียในช่วงปลายสัปดาห์ 

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดหุ้นโลกปรับขึ้นในสัปดาห์นี้จาก (1) ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือน ก.ย. มากขึ้นหลัง นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้เฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.50%  (2) ) ปธน.ทรัมป์ ลงนามขยายเวลาข้อตกลงหยุดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็นเวลาอีก 90 วัน  (3) รัฐบาลจีนประกาศ 2 โครงการใหม่เพื่ออุดหนุนดอกเบี้ยสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจ

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจาก (1) กนง. มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เป็น 1.50% จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอลง (2) ศาล รธน. นัดแถลงด้วยวาจาและลงมติวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ แพทองธาร วันที่ 29 ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงหลังจากการผ่านการพิจารณางบฯ วาระ 2-3 ไปแล้ว ดังนั้น จึงลดทอนความเสี่ยงของการยุบสภาก่อนการผ่านงบฯ ลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.27% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีลดลงที่ 3.73% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 54 bps 
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.37% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 1.16% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 3,818 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 0.62%WoW สู่ 66.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความคาดหวังเฟดจะลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต้นสัปดาห์ เป็น Sentiment บวกต่ออุปสงค์น้ำมัน ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับลง 1.8%WoW สู่ 3,334.99 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 98.09 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 147.23 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาททรงตัวที่ 32.41 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.18 หยวน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5