สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกยังคงปรับขึ้นได้ต่อ โดย S&P500 ยังเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ แม้จะการชะลอการขึ้นบ้างระหว่างสัปดาห์ระหว่างรอผลการประชุมเฟด ซึ่งมีมติลดดอกเบี้ย 25 bps ตามตลาดคาดโดยมีกรรมการเพียง 1 ท่านคือ Stephen Miran (ผู้ที่ทรัมป์เพิ่งแต่งตั้ง) ลงมติให้ลดดอกเบี้ย 0.5% ทั้งนี้เฟดปรับประมาณการเศรษฐกิจโดยเพิ่ม GDP ปี 2025 เป็น 1.6% จาก 1.4% และปี 2026 เป็น 1.8% จาก 1.6% ขณะที่อัตราว่างงานคาดว่าจะอยู่ที่ 4.5% ในปี 2025 และเงินเฟ้อ Core PCE คาดว่าจะอยู่ที่ 3.1% ในปี 2025 และ 2.6% ในปี 2026 ด้าน Dot Plot ปี 2025 ส่วนมากมองว่าควรลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1 ครั้งใน Dot Plot ครั้งก่อน ขณะที่มองการลดดอกเบี้ยปีละ 1 ครั้ง ในช่วง 2026-2027 ซึ่งอาจจะน้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้นหลังการประชุม ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ยอดค้าปลีกออกมาดูยังค่อนข้างเป็นบวกเพิ่มขึ้นและสูงกว่าคาด บ่งชี้การบริโภคภาคเอกชนยังแข็งแรง หนุนภาวะ Goldilocks และการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 1.5% จากการลงทุน AI ในจีนของบริษัทใหญ่และ Nvidia ลงทุน US$5b ใน Intel หุ้นขนาดเล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% จากประโยชน์ที่คาดจะได้จากดอกเบี้ยที่ลดลง ด้านตลาดหุ้น EM ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและกระแสการลงทุนใน AI ของจีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคบริการของจีน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเหนือ 1300 ได้สำเร็จ ก่อนจะถูกขายทำกำไร หลังเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ผสานความเห็นของว่าที่รมว.คลังที่ระบุเตรียมมาตรการรองรับเงินบาทแข็งไว้แล้ว ทั้งนี้ตลาดยังรอการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะในกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญ ราคาน้ำมันปรับขึ้นจากความกังวลด้านอุปทานจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น (1) ท่าทีของ Fed ที่มีความ Dovish มากขึ้น โดยมองว่าควรลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 1 ครั้งใน Dot Plot ครั้งก่อน (2) ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.6%MoM สูงกว่าคาด 0.2% บ่งชี้การบริโภคภาคเอกชนยังแข็งแรง (3) กิจกรรมเศรษฐกิจของจีนในเดือน ส.ค. 2025 อ่อนแรงลงในหลายมิติและต่ำกว่าตลาดคาด
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) คณะทำงานปฏิรูปตลาดหุ้นไทย (Taskforce) เผย "ร่างมาตรการสร้างเสน่ห์หุ้นไทย" เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขีดความสามารถในการแข่งขัน (2) ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส.ค. 2568 ลดลงสู่ 86.4 จากความไม่แน่นอนทางการเมือง, การเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบ 2568 ที่ต่ำกว่าเป้าหมาย (3) ขสมก.เตรียมประกาศ TOR รถเมล์ปรับอากาศอีวี 1,520 คัน มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.11% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับสูงขึ้นที่ 3.57% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 54 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ 1.39% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ 1.14% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 10,043 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 1.6%WoW สู่ 67.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อุปทานรัสเซียชะงักจากการโจมตีต่อเนื่องโดยยูเครน และสหรัฐฯ หนุน NATO กดดันประเทศนำเข้าพลังงานรัสเซีย ราคาทองคำ (Spot) เพิ่มขึ้น จ.28%WoW สู่ 3,643.81 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่ 97.34 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 147.9 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.17 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ 31.91 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.11 หยวน