
Update: เฟดปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่สองในปีนี้ ยุติ QT — สะท้อนท่าที “Cautious Easing”
By INVX Investment Products & Strategy
30 ตุลาคม 2568
มติการประชุม:
คณะกรรมการ FOMC มีมติ 10 ต่อ 2 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่กรอบ 3.75–4.0% และประกาศ ยุติมาตรการลดขนาดงบดุล (QT) มีผลวันที่ 1 ธันวาคมนี้ หลังงบดุลลดลงต่ำกว่า 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นการสิ้นสุดวงจรดูดสภาพคล่องที่เริ่มตั้งแต่ปี 2022
สัญญาณจาก Powell:
ประธานเฟด Jerome Powell ระบุว่า “การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนธันวาคมยังไม่มีข้อสรุปแน่นอน” พร้อมเตือนว่าการคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไปอาจไม่เหมาะสมในภาวะที่ข้อมูลเศรษฐกิจขาดช่วงจาก Government Shutdown ทำให้เฟดต้อง “ขับรถในหมอก” และเลือกเดินหน้าอย่างระมัดระวัง
นัยของการยุติ QT:
การตัดสินใจยุติ QT สะท้อนว่าเฟดกำลังเปลี่ยนน้ำหนักเชิงนโยบายจากการต่อสู้เงินเฟ้อมาให้ความสำคัญกับเสถียรภาพด้านสภาพคล่องมากขึ้น โดยในแถลงการณ์ได้เพิ่มถ้อยคำว่า “ความเสี่ยงเชิงลบต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา” บ่งชี้ว่าแรงส่งของตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรง และเฟดตระหนักว่าการคงดอกเบี้ยสูงไว้นานอาจกระทบเศรษฐกิจเกินจำเป็น
ความเห็นที่แตกต่างภายในคณะกรรมการ:
เสียงโหวตที่แตกต่างในคณะกรรมการ FOMC โดย Stephen Miran ต้องการลดดอกเบี้ย 0.5% ขณะที่ Jeff Schmid ต้องการให้คงดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อคืน สะท้อนให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างกันมากขึ้นภายในคณะกรรมการต่อทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป
การตอบสนองของตลาด:
ตลาดการเงินสะท้อนความผันผวนหลังคำแถลง Powell โดย Bond yield อายุ 2 ปีดีดขึ้น 11bps สู่ 3.6%, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงเล็กน้อย และดัชนี Russell 2000 ปิดลบ 0.87% จากระหว่างวันปรับตัวบวกกว่า 0.86% หลังเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังต่อทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป
มุมมอง INVX:
เราประเมินว่าการยุติ QT ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายครั้งสำคัญที่ยืนยันว่าเฟดไม่ต้องการให้สภาพคล่องตึงตัวไปกว่านี้ ขณะที่ถ้อยแถลงของ Powell สะท้อนแนวทาง Cautious Easing หรือการผ่อนคลายนโยบายอย่างระมัดระวัง เรายังคงคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้อีกหนึ่งครั้งในเดือนธันวาคม หากข้อมูลแรงงานยังอ่อนต่อเนื่อง และลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปี 2026 ตามประมาณการจาก Dot plot เดิม ซึ่งจะสนับสนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น US Small Cap ซึ่งได้อานิสงส์โดยตรงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง เนื่องจากกลุ่มนี้มีสัดส่วนหนี้ลอยตัวสูง ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น ขณะเดียวกัน แนวโน้มกำไรมีโอกาสฟื้นตัวโดดเด่นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2026 ขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แนะนำทยอยสะสมหุ้น US Small Cap กองทุนแนะนำ SCBRS2000(A) เพื่อรับโอกาสจากรอบฟื้นตัวของหุ้นขนาดเล็ก