Keyword
PDF Available  
Special Report - Thai Stocks

INVX กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทย – ภายใต้ความคาดหวังจบดีลการค้าและ Fund Flow ไหลเข้า

24 Jul 25 10:44 AM
สรุปสาระสำคัญ

INVX มองว่าการฟื้นตัวของ SET ที่ระดับ 1,219 จุด (PER ราว 14 เท่า) ใกล้กับเป้าหมายที่ประเมินระดับ 1230-1250 ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังว่าสหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรใหม่จากไทยเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% ใกล้เคียงภูมิภาคแล้ว ทำให้ช่วงสั้นคาด SET เริ่มมี Upside จำกัดและต้องระมัดระวังมากขึ้น หากการเจรจาไม่ประสบผลซึ่งทำให้ไทยเสียเปรียบด้านต้นทุนภาษี หรือ เกิด Sell on Fact หากจบดีลการค้าตามอัตราภาษีที่คาดหวังได้จริง แต่อย่างไรก็ดี หาก Fund Flow ยังมีทิศทางไหลเข้าคาดมีโอกาสจะหนุนให้ SET กลับไปซื้อขายที่ค่าเฉลี่ยระยะยาวของตลาดอีกครั้งที่ระดับ 16 เท่า หรือ 1,376 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงแนะนำทยอยสะสมสำหรับ 1) ธีม Laggard Play โดยเลือกหุ้น SET 50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT และ 2) ธีม High Dividend ที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดมีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐพิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและทำให้ FDI กลับเข้าสู่ไทย อาจพิจารณาเก็งกำไรในหุ้นธีมกลุ่มฟื้นตัวเร็ว แนะะนำ AMATA GPSC WHA

  • วานนี้ตลาดหุ้นในเอเชียปรับขึ้นถ้วนหน้า โดยดัชนีหุ้นเอเชียปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน และ Nikkei ปรับขึ้น 3.2%DoD นำโดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่ง INVX มองเป็นการขานรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าของประเทศในภูมิภาค (โดยเฉพาะญี่ปุ่น) อีกทั้งนักลงทุนยังเชื่อมั่นมากขึ้น (Risk on) และคาดว่าประเทศอื่นๆ จะบรรลุข้อตกลงถูกเก็บภาษีศุลกากรใหม่จากสหรัฐต่ำกว่าระดับที่เคยถูกขู่ไว้เช่นกัน จึงทำให้มีเงินทุนไหลกลับเข้าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย สะท้อนได้จากมีเงินไหลเข้าเอเชีย (รวมญี่ปุ่น) ราว 1.6 หมื่นล้านเหรียญในช่วง ก.ค. (1-23 ก.ค. 68) และ 5.19 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

  • แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะยังไม่ทราบผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐ แต่วานนี้ SET Index ปรับขึ้น 2.34%DoD สู่ระดับ 1219.62 จุด สูงสุดในรอบเกือบ 2.5 เดือน จากคาดหวังไทยจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าด้วยอัตราภาษีต่ำใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเช่นกัน และเมื่อพิจารณาตั้งแต่วันที่ 1-23 ก.ค. 68 พบว่า SET ปรับขึ้น 11.9%MTD ดีกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่ง INVX มองมีปัจจัยหนุนมาจาก 1) แรงซื้อเก็งกำไรที่เข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง DELTA 2) Fund Flow ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย โดยต่างชาติพลิกซื้อสุทธิใน SET 1.1 หมื่นลบ. หลังขายสุทธิ 9 เดือนติดต่อกัน และ 3) แรงซื้อบางส่วนจากสถาบันที่กลับเข้าสู่ตลาดราว 3.6 พันลบ. ซึ่งคาดมาจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ที่เข้าสู่กองทุน THAIESGX อย่างไรก็ดี หากไม่รวม DELTA ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้นแรง48.4%MTD พบว่า SET ex DELTA ปรับขึ้นเพียง 8.4%MTD สะท้อนว่าแรงขับเคลื่อนหลักส่วนนึงของการฟื้นตัวในรอบนี้มาจาก DELTA อย่างมีนัยสำคัญ

 

ความคาดหวังสหรัฐจะเก็บภาษีต่ำกว่าที่ขู่ไว้...หนุนตลาดหุ้นเอเชีย

  • ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ทยอยประกาศข้อตกลงภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้าหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยล่าสุดวานนี้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าใหม่จากญี่ปุ่น 15% (รวมถึงรถยนต์) และฟิลิปปินส์ 19% หลังก่อนหน้านี้ประกาศภาษีนำเข้าใหม่จากอินโดนีเซีย 19% และเวียดนาม 20% ทำให้ตลาดตีความว่าประเทศในภูมิภาคนี้จะถูกปฏิบัติในกรอบภาษีใกล้เคียงกัน และยังเป็นอัตราภาษีที่ต่ำกว่าเดิมที่เคยถูกขู่ไว้ในครั้งแรกเมื่อ 2 เม.ย. 68
  • ส่วนวานนี้ตลาดหุ้นในเอเชียปรับขึ้นถ้วนหน้า โดยดัชนีหุ้นเอเชียปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน และ Nikkei-225 พุ่งขึ้น 3.2%DoD นำโดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Toyota ซึ่ง INVX มองเป็นการขานรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าของประเทศในภูมิภาค (โดยเฉพาะญี่ปุ่น) อีกทั้งนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้น (Risk on) และคาดหวังว่าประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่บรรลุข้อตกลงจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรใหม่จากสหรัฐต่ำกว่าระดับที่เคยถูกขู่ไว้เช่นกัน จึงทำให้มีเงินทุนไหลกลับเข้าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย สะท้อนได้จากมีเงินไหลเข้าเอเชีย (รวมญี่ปุ่น) ราว 1.6 หมื่นล้านเหรียญในช่วง ก.ค. (1-23 ก.ค. 68) และ 5.19 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แม้ช่วงสั้น SET ปรับขึ้นแรงแล้ว แต่ยังมีลุ้น Fund Flow ไหลเข้า

  • แม้เดือน ก.ค. SET Index จะปรับตัวดีขึ้นถึง 11.9%MTD แต่หากไม่รวม DELTA ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงถึง 48.4%MTD จะพบว่า SET ex DELTA ปรับขึ้นเพียง 8.4%MTD สะท้อนว่าแรงขับเคลื่อนหลักส่วนนึงของการฟื้นตัวในรอบนี้มาจาก DELTA อย่างมีนัยสำคัญ โดยสัญญาณการเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ของ SET เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 68 ซึ่งสะท้อนได้จากช่วงที่กราฟผลตอบแทนของ SET และ SET ex DELTA แสดงการแยกตัวอย่างชัดเจน
  • INVX มองว่า การฟื้นตัวของ SET จากจุดต่ำสุดของปีนี้ที่ 1,054 จุด (PER ราว 12 เท่า) มาซื้อขายปัจจุบันที่ 1,219 จุด (PER ราว 14 เท่า) ซึ่งใกล้เป้าหมาย SET ที่ประเมินว่าที่ระดับ 1230-1250 สะท้อนถึงความคาดหวังว่าไทยจะบรรลุดีลข้อตกลงได้ โดยสหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรใหม่จากไทยลดลงจาก 36% มาอยู่ที่เท่ากับหรือต่ำกว่า 20% แล้ว ทำให้ช่วงสั้นคาด SET เริ่มมี Upside จำกัดและต้องระมัดระวังมากขึ้น หากการเจรจาไม่ประสบผลซึ่งทำให้ไทยเสียเปรียบด้านต้นทุนภาษี หรือ เกิด Sell on Fact หากจบดีลการค้าตามอัตราภาษีที่คาดหวังได้จริง แต่อย่างไรก็ดี หาก Fund Flow ยังมีทิศทางไหลเข้าในตลาดหุ้นเอเชีย รวมทั้งไทย อีกทั้งพบว่ามีหุ้น SET50/SET100 ที่พื้นฐานแข็งแกร่งแต่ราคาหุ้นปรับขึ้นน้อยกว่าตลาด (laggard) ยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อหาก Fund Flow ไหลเข้า ซึ่งคาดหนุนให้ SET มีโอกาสกลับไปซื้อขายที่ค่าเฉลี่ยระยะยาวของตลาดอีกครั้งที่ระดับ 16 เท่า หรือ 1,376 จุด
  • ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงแนะนำทยอยสะสมสำหรับ 1) ธีม Laggard Play โดยเลือกหุ้น SET 50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมี ESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT และ 2) ธีม High Dividend ที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดมีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐพิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) กลับเข้าสู่ไทย อาจพิจารณาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มฟื้นตัวเร็ว แนะะนำ AMATA GPSC WHA

 

 

Summary

 

INVX views the recovery of the SET Index to 1,219 points (approximately 14x PER) as approaching our target range of 1,230–1,250, which reflects market expectations that the new tariffs on Thailand will be assessed at a rate equal to or below 20%, aligning with regional peers. As a result, we see near term upside as limited, requiring greater caution, especially if trade negotiations fail—leading to Thailand’s relative disadvantage in tax costs—or if a sell on fact scenario unfolds after a deal is reached at the anticipated tariff rate. If funds continue to flow in, the SET may return to its long-term average valuation of 16x PER, or around 1,376 points. Therefore, for low-risk investors, we recommend a gradual accumulation strategy focusing on: 1) Laggard play theme – Select SET50 stocks whose MTD price performance lags the SET, with attractive valuations (PBV and PER 2025F < -1SD) and strong fundamentals. Recommended names: BDMS, CPALL, MINT, MTC, and PTT. 2) High dividend theme – Focus on quality dividend payers (SET50 stocks with SET ESG Rating A or higher) to generate short-term cash flow, especially those anticipated to pay interim dividends on 1H25 earnings, with a dividend yield of over 2%. Recommended names: ADVANC, BBL, and PTT. For high-risk investors who believe negotiations will lead the US to lower Thai tariffs to 20% or below, restoring confidence and attracting FDI back into Thailand, we suggest speculative positions in stocks that can recovery rapidly. Suggested picks: AMATA, GPSC, and WHA.

 

  • Asian equity markets rose broadly on Wednesday, with the regional index reaching a one-month high and Japan’s Nikkei surging 3.2% DoD, led by gains in the auto manufacturing sector. INVX views this rally as a response to progress in trade negotiations within the region (particularly in Japan). Investor sentiment also improved, signaling a “risk-on” mood, with expectations that other countries will secure new US tariff rates below previously threatened levels. This optimism has driven capital back into Asian risk assets, as evidenced by inflows of ~US$16bn into Asia (including Japan) from July 1–23, and US$5.19bn over the past week alone.

  • Although the results of Thailand’s trade negotiations with the US are uncertain, the SET Index rose by 2.34% DoD on Wednesday to close at 1,219.62—its highest level in nearly 2.5 months—on optimism that Thailand will secure favorable tariff terms similar to regional peers. From July 1–23, the SET gained 11.9% MTD, outperforming other Asian markets. INVX attributes this rally to three key drivers: 1) speculative buying in large-caps such as DELTA, 2) the return of foreign fund flows, with net foreign inflows of Bt11bn after nine months of net selling, and 3) partial return of institutional buying at Bt3.6bn, likely supported by new capital flowing into the THAIESGX fund. However, excluding DELTA—which surged 48.4% MTD—the SET ex-DELTA was up only 8.4% MTD, indicating that DELTA has been a key driver of the recent market rebound.

Download EN version click >> Investment-Strategy-in-the-Thai-Stock-Market-Amid-Expectations-of-a-Trade-Deal-and-Incoming-Fund-Flows_250724_E.pdf

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5