Keyword
PDF Available  
Special Report - Thai Stocks

กลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นไทย – ช่วงรอข้อสรุปการค้าสหรัฐและจับตาชายแดนไทยและกัมพูชา

31 Jul 25 8:00 AM
สรุปสาระสำคัญ

INVX มองช่วงสั้น SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ เพื่อรอข้อสรุปดีลเจรจาทางการค้ากับสหรัฐและจับตาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งสามารถแบ่งกลยุทธ์ลงทุนที่น่าสนใจ ภายใต้ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละกรณี ดังนี้ 1) กรณีได้ภาษีศุลกากร ≤ 20% และชายแดนไม่รุนแรงเพิ่ม แนะนำธีมหุ้นฟื้นตัวเร็วหลังปลดล็อกปัญหาทั้งหมด (AMATA GPSC WHA DELTA CBG AEONTS) และธีม Laggard ซึ่งคาดได้แรงหนุน Fund Flow (BDMS CPALL MINT MTC  PTT) 2) กรณีภาษีศุลกากร ≤ 20% และชายแดนรุนแรงเพิ่มขึ้น แนะนำธีมหุ้นฟื้นตัวเร็วหลังปลดล็อกปัญหาภาษีสหรัฐ (AMATA GPSC WHA DELTA) และธีม Laggard ซึ่งคาดได้แรงหนุน Fund Flow (BDMS CPALL MINT MTC  PTT) ขณะที่หลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นที่พึ่งพาตลาดกัมพูชา (CBG AEONTS) 3) กรณีภาษีศุลกากร > 20% และชายแดนไม่รุนแรงเพิ่มขึ้น แนะนำธีมหุ้นฟื้นตัวเร็ว หลังปลดล็อกปัญหากัมพูชา (CBG AEONTS) และธีม Defensive ที่ผันผวนต่ำ (ADVANC DIF BCH) ขณะที่หลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้ผลกระทบจากปัญหาภาษีสหรัฐ (AMATA WHA DELTA) และ 4) กรณีภาษีศุลกากร > 20% และชายแดนรุนแรงเพิ่มขึ้น แนะนำธีม Defensive (ADVANC DIF BCH) และธีม High Dividend (ADVANC BBL PTT) ขณะที่หลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากทั้งสองปัญหา (CBG AEONTS AMATA WHA DELTA)

  • ล่าสุด INVX ได้ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปี 2568 เป็นเติบโตที่ 1.8%YoY จากเดิม 1.4%YoY ภายใต้กรณีฐาน คือ สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าไทยที่ 15–20% โดย 3 เหตุผลที่ทำให้ปรับเพิ่ม GDP ไทย คือ 1) สัญญาณการเจรจาการค้าระหว่างประเทศดีขึ้น โดยมองไทยมีโอกาสเกิดกรณีฐานได้มากขึ้น หลังแสดงความร่วมมือหยุดยิงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ ปธน. ทรัมป์สั่งให้ USTR กลับมาเจรจาภาษีกับไทยต่อ 2) 1H68 เศรษฐกิจโลกและไทยดีกว่าคาด โดยล่าสุด IMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกและไทยปีนี้เป็นเติบโต 3.0% และ 2.0% ตามลำดับ และ 3) ความเสี่ยงการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์จำกัด โดยมองการยุบสภาหลังผ่าน พ.ร.บ. งบประมาณเป็นไปได้สูงสุด (70-80%) ขณะที่ความเสี่ยงสงครามไทยและกัมพูชาลดลงจากก่อนหน้านี้ ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะประเด็นภาษีนำเข้าที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยหนุน Fund Flow และช่วยให้ SET Index มีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายที่ระดับ 14-16 เท่า

  • ตั้งแต่ 1-30 ก.ค. 68 SET ปรับขึ้นกว่า 14.2%MTD ส่วนหนึ่งมองเกิดจาก Fund Flow ไหลเข้า (Net Buy ราว 1.56 หมื่นลบ.) หลังคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐ ทำให้ INVX ประเมินเป้าหมาย SET ภายใต้อัตราภาษีของสหรัฐในระดับต่างๆ หลังมีการปรับเพิ่ม GDP ไทยปีนี้ใหม่ ดังนี้ 1) กรณีฐาน (ภาษี 15–20%) ซึ่งไทยได้ภาษีใกล้เคียงประเทศอื่นในภูมิภาค คาดปี 2568 SET จะอยู่ในกรอบ 1,242–1,419 จุด (ภายใต้บริบทมี Fund Flow ไหลเข้า) 2) กรณีดีสุด (ภาษี 10%) ซึ่งไทยได้ภาษีต่ำกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค คาดปี 2568 SET จะอยู่ในกรอบ 1,272–1,453 จุด (อิง PER 14-16 เท่าเช่นกัน) และ 3) กรณีเลวร้าย (ภาษี 21–36%) ซึ่งไทยได้ภาษีสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค คาดปี 2568 SET จะอยู่ในกรอบ 911–1,192 จุด (ภายใต้บริบทมี Fund Flow จำกัดหรือกลับมาไหลออกและ SET ซื้อขายในกรอบล่างที่ PER 12-14 เท่า)

 

 INVX ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปี 2568 เป็นเติบโต 1.8%YoY

 

ล่าสุด INVX ได้ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปี 2568 เป็นเติบโต 1.8%YoY จากเดิม 1.4%YoY ซึ่งอยู่ภายใต้กรณีฐาน คือ สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 15–20% ต่ำกว่าระดับที่เคยกังวล (เคยประเมินกรณีเลวร้ายสุดไว้สูงถึง 31–36%) โดยเหตุผล 3 ประการที่ทำให้ INVX ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทย คือ

 

1.สัญญาณการเจรจาการค้าระหว่างประเทศดีขึ้น หลังสหรัฐได้ทำข้อตกลงการเจรจาการค้ากับประเทศขนาดใหญ่และประเทศในเอเชีย ซึ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐอาจต้องการเก็บภาษีกับประเทศขนาดใหญ่ที่ประมาณ 15% และประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ประมาณ 20% ซึ่งทำให้มองไทยมีโอกาสเกิด "กรณีฐาน" ได้มากขึ้น โดยเฉพาะหลังไทยแสดงความร่วมมือหยุดยิงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ ปธน. ทรัมป์แสดงความยินดีและสั่งให้ USTR กลับมาเจรจาเรื่องภาษีกับไทยต่อ

 

2.1H68 เศรษฐกิจโลกและไทยออกมาดีกว่าคาด โดยล่าสุด IMF ได้มีการปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกและไทยปี 2568 เป็นเติบโต 3.0% และ 2.0% ตามลำดับ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ภาคธุรกิจมีการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิต (Supply chain) โดยเร่งคำสั่งซื้อก่อนการเก็บภาษีมาจริง นอกจากนั้น การเลื่อนการเก็บภาษีออกไปทำให้ภาคธุรกิจมีเวลาเตรียมตัวบริหารจัดการ Supply chain ใหม่ได้

 

3.ความเสี่ยงทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ที่จำกัด โดยแม้ความเสี่ยงทางการเมืองไทยจะมีมากขึ้น แต่ INVX มองว่าการยุบสภาหลังผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณเป็นไปได้สูงสุด (70-80%) ขณะที่ประเด็นความเสี่ยงสงครามระหว่างไทยและกัมพูชาจะลุกลามบานปลายลดลง หลังไทยและกัมพูชามีการเจรจาหยุดยิงชั่วคราว โดยแม้ปัจจัยเสี่ยงจะยังคงอยู่ แต่ภาพรวมถือว่า “ความเสี่ยงลดลง” จากช่วงก่อนหน้า

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5