Keyword
Special Report - Thai Stocks

กลยุทธ์การลงทุน - อัพเดตสถานการณ์ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์

1 Feb 23 12:00 AM
Strategy

บทสรุป

สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ : เดือน ม.ค. 66 ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำตาล ฝ้าย ยางพารา ต่างปรับตัวขึ้น MoM สาเหตุจากความกังวลด้านผลผลิตหรืออุปทานจะตึงตัว หลังเกิดปัญหาสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ขณะที่ราคาข้าวสาลีและปาล์มปรับตัวลง MoM จากความกังวลอุปทานจะเพิ่มขึ้นแต่อุปสงค์จะอ่อนแอจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ในจีน ส่วนราคาโลหะ (อลูมิเนียม ทองแดง ดีบุด สังกะสี เหล็ก) ปรับขึ้น MoM หลังคาดอุปสงค์จะดีขึ้นหลังจีนเปิดประเทศและกำลังผลิตส่วนใหญ่ในยุโรปถูกปิดตัวลง เนื่องจากราคาไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น สำหรับราคาเนื้อสัตว์บก (สุกร ไก่) ในไทยปรับขึ้นเล็กน้อยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะที่เดือน ก.พ. 66 คาดราคาสินค้าเกษตร ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศ และราคาโลหะส่วนใหญ่จะยังปรับขึ้นหรือทรงตัว MoM จากอุปสงค์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลกดีขึ้นและจีนเปิดประเทศ ขณะที่อุปทานยังตึงตัวจากข้อจำกัดด้านสภาพอากาศ การเกิดโรคระบาดในพืชและสัตว์ รวมทั้งต้นทุนการผลิตทีสูงขึ้น

สถานการณ์ราคาพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. ฟื้นตัว Moปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากประเด็นข่าวการเปิดประเทศของจีนที่ออกมาในช่วงปลายปี 2565 โดยเปิดให้เดินทางได้อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบ Brent เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.0% MoM ส่งผลให้ IEA ปรับประมาณการการเติบโตอุปสงค์ขึ้น 1.9 MDB (ล้านบาร์เรลต่อวัน) YoY สู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 101.7 MBD กว่าครึ่งหนึ่งของอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศจีน ปัจจัยดังกล่าวหนุนค่าการกลั่นเดือน ม.ค. ฟื้นตัวต่อเป็นเดือนที่ 3 จากส่วนต่างราคาน้ำมันอากาศยานและเบนซินที่เพิ่มขึ้น ตามการเดินทางที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามราคาก๊าซฯ ปรับลดลงต่อเนื่องจากภาวะอากาศที่ยังคงอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยในยุโรป ทำให้ปริมาณก๊าซฯ สำรองอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาถ่านหินในทิศทางเดียวกันกับราคาก๊าซฯ ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะเป็นไปตามคาดหรือไม่ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก โดนในเดือน ก.พ. EU จะเริ่มการคว่ำบาตรน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียกลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น แนะนำดังนี้

1) หุ้นเด่นจากสถานการณ์สินค้าเกษตรและโลหะ เลือก CPF และ GFPT หลัง 4Q65 คาดกำไรปกติจะพื้นตัวดีขึ้น YoY แรงหนุนจากราคาเนื้อสัตว์ที่ดีขึ้นช่วยหนุนยอดขายและมาร์จิ้น ขณะที่ 1Q66 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น โดยอิงกับราคาสัตว์บกในประเทศไทยและจีนที่ดีขึ้นใน 1Q66TD แต่จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ยังแนะนำระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มอย่าง OSP, CBG จากความกังวลการแข่งขันที่สูงในธุรกิจและต้นทุนอลูมิเนียมที่เริ่มปรับขึ้น รวมทั้งต้องติดตามสำหรับความเสี่ยงด้านนโยบายของกลุ่มลูกค้าประเทศ CLMV 

2) หุ้นเด่นจากสถานการณ์พลังงาน เลือก BCP จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ที่คาดจะแข็งแกร่งตามค่าการกลั่นที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่ BCP มีสัดส่วนสูง ผลขาดทุน FX จำนวนมากคาดไม่เกิดซ้ำ และยังเป็นหุ้นโรงกลั่นผลประกอบการมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ธุรกิจการตลาดน้ำมันได้ประโยชน์จากการกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ธุรกิจไฟฟ้าเน้นในพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโอกาสเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ ESSO ในระยะยาว ระมัดระวังกลุ่มถ่านหินหลังเข้าสู่ปลายฤดูหนาวที่ปริมาณก๊าซฯ ในคลังยังอยู่ในระดับสูง ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงด้านนโยบาย การซื้อกิจการ ESSO ที่ยังต้องรออนุมัติหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ถือหุ้น

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5