INVX Global Morning Routine - 17 ส.ค. 2566

บทสรุป

• ตลาดหุ้นปรับตัวลงหลังท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐยัง Hawkish และมองภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลงใน 2H23 นอกจากนี้ตลาดยังมีความกังวลต่อภาพเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด ประกอบกับความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของจีนยังอยู่ในระดับที่สูงและมีทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 
•  
• กระแสเงินในวันที่ 15 ส.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวนจากความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เราเห็นแรงซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้นที่อาจจะมีความผันผวนน้อยกว่าตราสารหนี้ระยะยาว 2) มีแรงขายในกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจอย่าง สินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มการเงิน ทั้งนี้มองว่ากระแสเงินในกลุ่มนี้ค่อนข้างผันผวนตามตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ 3) กระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีผันผวน ล่าสุดมีเงินไหลเข้ามองเป็นการเก็งกำไรหลังราคาย่อตัวลงมา 4) มีแรงซื้อใน EM แม้ว่ามีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในจีนและค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่ามากขึ้น 5) หุ้นขนาดเล็กมีแรงซื้อกลับ ยังมองว่าเป็นแรงเก็งกำไรไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นฐานหรือการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
•  
• Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 0.9% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.9% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 8bps ส่วนตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนปรับตัวลดลง 1% หลังนักลงทุนกังวลกับภาพการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีแรงขายในภาพรวม ทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการ Reopening ปรับตัวลดลง โดยกลุ่มเสื้อผ้าและคาสิโนปรับตัวลดลงแรง 1.8%-2.1%
•  
• ผลการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ยังค่อนข้าง Hawkish และมองภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลงใน 2H23 โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่มองความเสี่ยงเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ทำให้ยังคงต้องการใช้นโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่อง นอกนั้น Fed ยังประเมินการเติบโตของ Real GDP ในปี 2024-2025 จะต่ำกว่าศักยภาพการเติบโตและคาดว่าการว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้น
• ภาพรวมมองงบ Target ยังคงมีความเปราะบางทั้งจากอุปสงค์ที่อ่อนแอทำให้ SSS และรายได้ต่ำกว่าคาด รวมถึงมีการปรับลดคาดการณ์ลง แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพการกลับมาทำกำไรอีกครั้งทำให้ตลาดตอบสนองในทิศทางบวกซึ่งเป็นผลมาจากการลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและการจัดการค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีการลดสินค้าคงคลังลงราว 17%YoY ขณะที่ในระยะถัดไปคาดอุปสงค์ยังคงมีแรงกดดันจากภาพเศรษฐกิจชะลอตัวและการใช้จ่ายที่น้อยลงใยนสหรัฐฯ แต่ด้วยภาพการควบคุมต้นทุนที่ดีจะช่วยหนุนงบให้ฟื้นตัวได้
• เรามองภาพงบ Cisco ที่ออกมาค่อนข้างดีและฟื้นตัว โดยรายได้และกำไรเติบโตดีกว่าคาด ถึงแม้จะเห็นภาพอุปสงค์คำสั่งซื้อยังคงซบเซาจนทำให้การเติบโตชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่างบมีแรงหนุนจากความต้องการระบบเครือข่ายขององค์กรที่ยืดหยุ่นและบริการการสมัครสมาชิกที่ยังคงโตเยียวยาได้ ประกอบกับคาดการณ์ที่ให้สะท้อนถึงภาพการฟื้นตัวต่อเนื่องจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้นและ Entreprise Spending ที่เริ่มดี ด้วยภาพนี้ทำให้เรามองบวกต่อ Cisco ที่ยังคงมี Upside จากการฟื้นตัวของอุปสงค์และมองอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่ได้รับประโยชน์จาก AI เราแนะสะสม
•  
• JD.com เผยงบ 2Q23 สะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ดีและสามารถเติบโตได้ทุกกลุ่มธุรกิจถึงแม้จะมีแรงกดดันจาก 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าคาด 2) การแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรงขึ้อย่างไรก็ดีด้วยภาพแต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพอุปสงค์ที่ยังคงมี ประกอบกับการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพจะทำให้งบใน 2H23 จะยังคงฟื้นตัวโดยมีต้นทุนที่ลดลงสนับสนุนเพิ่มเติม ด้วยภาพ Downside ที่ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับมูลค่าหุ้นที่ถูกและราคาหุ้นที่ยังไม่รับรู้ประเด็นการฟื้นตัวของงบ ทำให้เราแนะสะสมในช่วงที่ราคาย่อตัวและคาดหวังต่อ Upside จากการฟื้นตัวในช่วง 2H23
•  
• 459 บริษัทในดัชนี S&P500 (คิดเป็น 92% ของบริษัททั้งหมดในดัชนี) เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 23 เป็นที่เรียบร้อย โดยภาพรวมงบดีกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ดีหากตัดความคาดหวังตลาดออก รายได้โตเพียง 1%YoY ขณะที่กำไรหดตัว 8%YoY สะท้อนถึงความเปราะบางของบริษัทจดทะเบียน