บทสรุป
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นดี หลังธนาคารกลางสหรัฐฯปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% สู่ระดับ 4.5%-4.7% ในการประชุมวานนี้ ประกอบกับเผยเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง แต่ยังคงส่งสัญญาณการเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวของ Fed ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (terminal rate) ของเฟดจะอยู่ที่ 4.892% ภายในเดือนมิ.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 4.92% ก่อนการแถลงข่าวของ Fed
กระแสเงินในวันที่ 31 ม.ค. 2023 1) เริ่มเห็นกระแสเงินไหลออกจากตราสารหนี้ระดับหนึ่งหลังจากที่ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี High Yield มีแรงขายทั้งนี้มองว่าเป็นการลดความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง 2) มีแรงซื้อในตลาดจีนที่ได้ประโยชน์จาการเปิดประเทศ รวมถึงตลาด EM และตลาดเอเชีย แต่กระแสเงินผันผวนมากกว่าตลาดหุ้นจีน 3) มีเงินไหลออกจากหุ้นธีม Growth และเทคโนโลยี ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ราคาพลังงานค่อนข้างผันผวน 4) มีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดเล็กสะท้อนภาพความ Risk-on ของนักลงทุนแต่เทรนด์ยังไม่ชัดเจน 5) เริ่มเห็นแรงซื้อในหุ้นที่อิงกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจสินค้าอุตสาหกรรมและ Consumer Discretionary บ่งชี้ว่าตลาดอาจจะคลายความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวน้อยลง
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% และราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 0.3% ด้าน Credit Spread ของ IG ปรับตัวลดลง 2.4bps ส่วน HY ปรับตัวลดลง 3-5bps ขณะที่เราก็เห็นการย่อตัวลงของหุ้นกลุ่ม Reopening ในจีน หากต้องการเล่นในกลุ่มนี้เราแนะนำหุ้นที่ราคายังไม่กลับไป Pre COVID-19 อย่าง Beijing Capital International Airport, Shanghai International Airport, Sands China
Costco เผยยอดขายเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6.9%YoY อยู่ที่ $16.8bn มากกว่าตลาดคาด มีแรงหนุนจากตัวเลข Traffic เพิ่มขึ้น 6.2%YoY ขณะที่ Ticket ชะลอตัวลงอยู่ที่ 1.3%YoY สะท้อนจำนวนลูกค้าที่มาร้านเพิ่มขึ้นแต่ยอดขายเฉลี่ยต่อคนลดลง ซึ่งเรามองว่าอาจเป็นผลมาจากการใช้จ่ายที่ประหยัดขึ้นท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อที่สูง ขณะที่ราคาสินค้าจำเป็น เช่น อาหารสดและอาหารแห้งยังคงเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่ม Nonfood หรือสินค้าไม่จำเป็นอย่าง เสื้อผ้า, Beauty นั้นราคาเริ่มชะลอตัวลง สะท้อนการใช้จ่ายของลูกค้าที่ยังคง conservative สอดคล้องกับภาพ Traffic และ Ticket
ภาพรวมผลประกอบการ Meta Platforms ในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ รายได้จากค่าโฆษณาลดลง 4.2% YoY มากกว่าที่ตลาด 1.3% นอกจากนั้นรายได้ของ Reality Labs ลดลง 17% YoY มากกว่าที่ตลาด 11% ซึ่งดูเหมือนตลาดจะตอบสนองกับข่าวของ Meta Platform ที่ราคาหลังตลาดปิดปรับเพิ่มขึ้น 15-20% โดยเรามองว่าตลาดไม่ได้ตอบสนองกับผลประกอบการทั้งนี้สืบเนื่องจาก 1) บริษัทประกาศปรับงบลงทุนลง 5-10bn ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลกับ Reality Labs และมีการปรับลดค่าใช้จ่ายลง 2) บริษัทประกาศเพิ่มงบประมาณการซื้อหุ้นคืนอีก US$10.9b มาเป็นรวม US$40b เรามองว่าแนวโน้มผลประกอบการของ Meta Platform ไม่ได้สมเหตุสมผลกับราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนบนภาพปัจจัยพื้นฐาน แต่หากต้องการเก็งกำไรบนภาพ Sentiment อยู่ในกรอบ US$175-190
ยอดขายรถยนต์ของสหรัฐในเดือนม.ค. 23 เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด 7%YoY และ 19%MoM อยู่ที่ 16.2 ล้านคัน ซึ่งนับเป็นการฟื้นตัวที่เร็วจากระดับ 13.6 ล้านคันใน ธ.ค. 22 สะท้อน pent-up demand ที่มี High incentive ประกอบกับและการปรับสินค้าคงคลังให้เป็นมาตรฐานสะท้อน Chip Shortage ที่ดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามปริมาณการขายรถยนต์ในจีนเดือนม.ค.หดตัว 43%MoM และปริมาณการขายรถยนต์ EV ในเดือนเดียวกันลดลง 50%MoM สู่ระดับ 304,000 และ 299,0008 คันตามลำดับ หลังสมาคมรถยนต์ในจีนเผยเป็นเพราะการเติบโตของปริมาณการขายรถยนต์พลังงานใหม่ถึงจุดคอขวด ประกอบกับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องหมดอายุในปีนี้ ทั้งนี้เรามองว่ายังเป็นผลมาจากฐานสูงในช่วงเดือนธ.ค.ที่มีแรงหนุนจากการทำโปรโมชั่นลดราคาขายรถของหลายบริษัท เช่น Tesla
