- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดทำให้ตลาดมองว่าธนาคารกลางจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ทำให้หุ้นจีนที่อยู่ในตลาดสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง และข่าวเฉพาะตัวของ Apple และ Tesla ที่ยอดขายไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคาดการณ์
-
- กระแสเงินในวันที่ 21 ก.ค. 2023 1) เริ่มมีแรงซื้อกลับในตราสารหนี้แต่เป็นการซื้อในตราสารหนี้คุณภาพดีและเป็นการซื้อในตราสารหนี้ระยะยาวมากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น 2) มีแรงขายในกลุ่มเทคโนโลยีจากความกังวลต่อผลประกอบการและผลกระทบจากการ Rebalance น้ำหนักใน Nasdaq 100 ในขณะที่หุ้นธีม Growth มีแรงซื้อกลับแต่ยังมีลักษณะการเก็งกำไร 3) มีแรงขายในกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจอย่างพลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มการเงิน ทั้งนี้มองว่ากระแสเงินในกลุ่มนี้ค่อนข้างผันผวนตามตัวเลขที่ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล 4) มีแรงซื้อในตลาดจีนและ EM ทั้งนี้มองเป็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่มีอย่างต่อเนื่องแต่ปริมาณเงินไม่สูงมากนัก ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีเงินไหลเข้าจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าในช่วงสั้น
-
- ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับลดลง 0.9% จากความกังวลเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างน้อยยังกดดันตลาด กลุ่มเสื้อผ้ากีฬาและร้านอาหารปรับลดลง 1.8%-2.4% ส่วนกลุ่มเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้น 0.1% ตามภาพการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
-
- มุมมองของคณะกรรมการต่อภาพเศรษฐกิจนั้น Dovish มากกว่าที่คาดการณ์ โดย 1) มีมุมมองค่อนข้างระมัดระวัง เมื่อเทียบกับการมีมุมมองเชิงบวกในเดือน เม.ย. ซึ่งการฟื้นตัวจะผันผวนกว่าในเดือน เม.ย. 2) จะมีการปรับนโยบายเพื่อลดกระทบของวงจรเศรษฐกิจขาลง โดยจะทำให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพและมีสมดุลมากขึ้น 3) เน้นการบริโภคภายในประเทศเช่นรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 3) เน้นการลงทุนจากต่างประเทศและเพิ่มปริมาณเที่ยวบินให้เพียงพอกับการฟื้นตัว 4) ปรับโทนของการควบคุมในกลุ่มอสงัหาริมทรัพย์ โดยตัดการควบคุมการเก็งกำไรออกและหันไปให้ความสำคัญกับอุปสงค์และอุปทานมากขึ้น 5) มีแผนในการปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น เรามองท่าทีของรัฐบาลจีนต่อเศรษฐกิจนั้น Dovish มากขึ้น และจะมีมาตรการออกมาต่อเนื่องแต่จะไม่ใช่มาตรการใหญ่ แต่จะทำให้ Downside ของจีนน้อยลง เราชอบ China Mobile, AIA, Baidu, CATL รวมถึง Xiaomi และ Haier
-
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนหดตัวแรงเกินคาดในเดือน ก.ค. เนื่องจากความต้องการในภาคบริการถดถอย ขณะที่ผลผลิตทางอุตสาหกรรมร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่โควิด-19 เริ่มระบาด จากตัวเลขนี้บ่งชี้ว่า 1) การเติบโตของยุโรปอ่อนแอลงในเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผลจากการบริโภค การระบายสินค้า เงินเฟ้อที่สูงและดอกเบี้ยสูง 2) แรงกดดันด้านราคาชะลอตัวลงแต่ส่งผลกับภาคบริการ 3) แนวโน้มของคำสั่งซื้อ คำสั่งซื้อด้านส่งออก Backlog และการจ้างงานชะลอตัวลง จากตัวเลขของยุโรปบ่งชี้ถึงภาพของการชะลอตัวลงจนมีความเสี่ยงของ Soft landing ทั้งนี้อาจจะส่งผลกับท่าทีของธนาคารกลาง ECB ที่อาจจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย ด้วยในรูปแบบนี้เรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแรงกว่าเศรษฐกิจยุโรป ดังนั้นการลงทุนในสหรัฐจึงดีกว่ายุโรป แต่หากต้องการลงทุนในยุโรปเน้นไปที่กลุ่มเชิงรับอย่าง Enel, Allianz, L’Oreal
|
