บทสรุป
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัว โดยตลาดในหลายประเทศยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลหยุดยาวตรุษจีน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปค่อนข้างทรงตัวหลังหลายบริษัทเผยผลประกอบการในทิศทางผสม ซึ่งหากตัดความคาดหวังในตลาดออก เรามองว่าผลประกอบการที่ออกมาค่อนข้างมีทิศทางชะลอตัวและถือได้ว่าเป็น Earnings Recession
กระแสเงินในวันที่ 24 ม.ค. 2023 1) เริ่มเห็นกระแสเงินไหลออกจากตราสารหนี้ระดับหนึ่งหลังจากที่ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2) มีแรงซื้อในตลาดยุโรปต่อเนื่องมองว่าเป็นประเด็นการคลายความกังวลเรื่อง ศก ถดถอยในยุโรป และมีแรงซื้อในตลาดจีนที่ได้ประโยชน์จาการเปิดประเทศ รวมถึงตลาด EM ด้วยแต่กระแสเงินค่อนข้างผันผวน 3) มีเงินไหลออกจากหุ้นธีม Growth ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง 4) เริ่มเห็นแรงขายในหุ้นกลุ่มเชิงรับอย่าง Healthcare, Utilities และ Consumer Staples จากความคาดหวังของนักลงทุนในช่วงตลาดฟื้นตัว
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 12.8% และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 2.8% ขณะที่ Credit Spread ของ IG ปรับตัวลดลง 1bps ส่วน HY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3bps นอกจากนั้น Credit Default Swap ของ IG และ HY ปรับลดลง 0.5% ทั้งนี้มีรายงานจากฝั่งจีนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองและเปิดประเทศของจีนนั้นมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน เช่นการเดินทางที่เพิ่มขึ้น 2-3x จากปีที่ผ่านมา รายได้จาก Box Office นั้นเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับช่วง Pre COVID-19 ยอดจองโรงแรมและที่พัก รวมถึงยอดขายตั๋วในที่ต่างๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่า Pre COVID-19 แล้ว
Tesla เผยผลประกอบการ 4Q22 ดีกว่าคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 37%YoY อยู่ที่ $24.3bn ขณะที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 40%YoY อยู่ที่ $1.19 หนุนจากรายได้จากรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 33%YoY หลังยอดส่งมอบใน FY22 ยังคงแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นกว่า 40%YoY และยอดการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 47%YoY และรวมรายได้รอตัดบัญชีอีกกว่า $324Mn ที่เกี่ยวข้องกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ของบริษัทเรายังชอบในเชิงพื้นฐาน การเติบโต แต่หากใครค่อนข้างกังวลเรื่อง Management risk เราแนะนำให้เล่น EV อื่นอย่าง BYD, LG Chem, CATL, Volkswagen
ASML +1.7% หลังเผยรายได้ 4Q22 โต 29%YoY อยู่ที่ €6.43bn หนุนจากยอดจองที่อยู่ที่ €6.32bn ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 270 bps YoY เป็น 51.5% ขณะที่บริษัทเผยยังคงเห็นความไม่แน่นอนในตลาดที่เกิดจากอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการส่งออก อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี โดยบริษัทคาดการณ์ 1Q23 จะมียอดขายอยู่ที่ €6.1bn- €6.5bn ด้านกำไรขั้นต้นอยู่ที่ราว 49% - 50% ทั้งนี้คาดว่ายอดขายสุทธิในปี 23 จะเติบโตมากกว่า 25% YoY
