INVX Global Morning Routine - 26 เม.ย. 2566

บทสรุป

• ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหลังตลาดตอบสนองต่อตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ผลประกอบการส่วนมากตลาดคาดว่าจะชะลอตัวลง แต่ในช่วงตลาดปิดหลายบริษัทกลับเผยงบที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดทั้ง MSFT GOOGL Visa ทำให้ตลาดตอบสนองเชิงบวกในราคา After Hours
  
• กระแสเงินในวันที่ 24 เม.ย. 2023 1) ยังเห็นแรงซื้อในตราสารหนี้แต่มีสัญญาณการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน โดยเริ่มเห็นแรงขายในพันธบัตรรัฐบาลทั้งนี้อาจจะเริ่มกังวลกับท่าทีของธนาคารในการประชุมช่วงต้นเดือน พ.ค. ส่วนตราสารหนี้ High Yield มีแรงซื้อหลังจากที่โดยแรงขายไปก่อนหน้านี้ 2) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็กมากขึ้น ทั้งนี้มองว่าเป็นการซื้อกลับหลังจากมีแรงขายตามการปรับประมาณการลง 3) มีแรงซื้อในโลหะมีค่าทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง 4) กลุ่มที่มีแรงซื้อไปเยอะก่อนหน้านี้อย่างกลุ่มการเงิน ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นยุโรปมีแรงขายออกมาบ้าง 5) หุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจโลกอย่างกลุ่มพลังงาน กลุ่ม Materials และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมีการปรับตัวลดลงตามภาพของเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสภาวะถดถอยเพิ่มขึ้น
  
• Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนราคาถ่านหินในยุโรปปรับเพิ่มขึ้น 3.5% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 0.5% ด้าน Credit Spread ของ IG ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3bps ส่วน HY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13bps นอกนั้นกลุ่ม Reopening ในจีนปรับตัวลดลง 2.2% โดยเป็นการลดลง 4 วันติดต่อกันและปรับตัวลดลงในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้มองว่านักลงทุนอาจจะกังวลต่อภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้กิจกรรมในส่วนนี้อาจจะลดลง
  
• ผลประกอบการของ Microsoft และ Alphabet ออกมาดีกว่าที่คาด โดยเป็นผลจากธุรกิจ Cloud ที่ออกมาดีกว่าที่คาด หลังจากที่ชะลอตัวลงมา 3-4 ไตรมาสติดต่อกันและต่ำกว่าที่คาดในไตรมาสก่อนหน้า โดยหากพิจารณาเทียบระหว่าง Alphabet และ Microsoft เราจะพบว่า Microsoft อยู่ในสถานะที่ดีกว่าในการแข่งขันด้าน AI และกำลังพัฒนา Bing เพื่อตีตลาด Google Search ที่คิดเป็น 60-65% ของรายได้ Alphabet และ Youtube ก็มีการแข่งขันจาก TikTok ที่สูงต่อเนื่อง
• 
  ผลประกอบการของกลุ่ม Semiconductor ออกมายังปรับตัวลดลง QoQ และ YoY ใน 1Q23 และเป็นการหดตัวลงทั้งในส่วนของรายได้และกำไร สะท้อนถึงความอ่อนแอของอุตสาหกรรม Semiconductor โดยผลประกอบการของ Texas Instruments นั้นออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์และโตลดลง ขณะที่ SK hynik นั้นสอดคล้องกับผลประกอบการของ Micron Technology และ Samsung Electronics ที่ลดลงอย่างมากทั้งในเชิงรายได้และอัตราการทำกำไร แต่อย่างไรก็ดีราคาหุ้นไม่ตอบสนองต่อการลดลงและผลประกอบการมากนัก เพราะ SK Hynix ประเมินว่ารายได้มีแนวโน้มฟื้นตัวและผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุด
  
  ใน 1Q23 ไปแล้วและจะฟื้นตัวใน 2H23 จึงทำให้เราเห็นว่าผลประกอบการไม่ดีแต่มีความคาดหวังในการฟื้นตัว จึงจำเป็นต้องติดตามการฟื้นตัวต่อไป เรามองว่าฟื้นตัวแต่จะไม่ฟื้นตัวเร็วเท่ากับในอดีต ในกลุ่ม Semiconductor เราชอบ TSMC, AMD และ NVDA นอกจากนั้นเรายังชอบ ASML เช่นกันแต่ Backlog เป็นความเสี่ยงอยู่
• ถึงแม้กลุ่มเชิงรับอย่าง MCD CMG PEP จะถูกกดดันจากเงินเฟ้อสูง แต่ใน 1Q23 ยังคงเผยงบดีกว่าคาดทั้งกำไรและรายได้หลังมีแรงหนุนจากการปรับขึ้นราคาขายสินค้า ขณะที่มองกลุ่มนี้ควรมีติดพอร์ตในช่วงตลาดผันผวนหลังมีแรงซื้อแกร่ง อย่างไรก็ดีหากเทียบกันดูเหมือนกลุ่มเครื่องดื่มจะดีกว่ากลุ่มร้านอาหารหลังแรงซื้อและปริมาณการซื้อของลูกค้าจะมีมากกว่าและสามารถทนต่อ
  เงินเฟ้อได้
  
• Visa เผยงบออกมาในทิศทางเดียวกันกับ AMEX ที่ยังคงดีกว่าคาดและเติบโตต่อเนื่องหนุนจากการชำระเงินออนไลน์และปริมาณการใช้บัตรเดบิตและเครดิตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เรายังคงชอบและคาดหวังต่อผลประกอบการกลุ่มนี้ว่าจะออกมาดีต่อทั้ง Mastercard และ PayPal