Keyword
Global Morning Routine

INVX Global Morning Routine - 3 ก.พ. 2566

11 Nov 21 6:11 PM
GMRde33a18c-d719-4dfa-a2dd-2b99f0bed4f9-20240912055731

บทสรุป

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นดี ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มเทคฯ ขณะที่ฝั่งตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.50% อีกอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้งในเดือนหน้า หลังจากนั้นก็จะทำการประเมินแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป

กระแสเงินในวันที่ 1 ก.พ. 2023 1) ยังกระแสเงินไหลออกจากตราสารหนี้ระดับหนึ่งหลังจากที่ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี แต่มีแรงซื้อใน High Yield ในระยะสั้นจากการคลายความกังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้สะท้อนจาก Credit Spread ที่ลดลง 2) มีแรงซื้อในตลาดจีนที่ได้ประโยชน์จาการเปิดประเทศ แต่มีปริมาณเงินไหลเข้าน้อยลง 3) มีเงินไหลออกจากหุ้นธีม Growth และเทคโนโลยี ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ราคาพลังงานค่อนข้างผันผวน 4) มีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดเล็กสะท้อนภาพความ Risk-on ของนักลงทุนแต่เทรนด์ยังไม่ชัดเจน 5) เริ่มเห็นแรงซื้อในหุ้นที่อิงกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจสินค้าอุตสาหกรรม การเงินและ Materials บ่งชี้ว่าตลาดอาจจะคลายความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวน้อยลง

Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 2% และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.5% ด้าน Credit Spread ของ IG ปรับตัวลดลง 5bps ส่วน HY ปรับตัวลดลง 10bps ขณะที่เราก็เห็นการย่อตัวลงของหุ้นกลุ่ม Reopening ในจีนราว 5% หลังจากช่วงวันหยุดยาวของจีน หากต้องการเล่นในกลุ่มนี้เราแนะนำหุ้นที่ราคายังไม่กลับไป Pre COVID-19 อย่าง Beijing Capital International Airport, Shanghai International Airport, Sands China

ในระยะนี้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความคาดหวังเชิงบวกและเล่นบนประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ย โดยราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของ VIX มากกว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนี ซึ่งไม่เห็นได้บ่อยนักและอาจจะบ่งชี้ว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดี ในอดีตมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น 16 ครั้งตั้งแต่ปี 1990 เราจึงมองว่าให้นักลงทุนเพิ่มการบริหารจัดการความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับปัจจัยพื้นฐาน และรอจังหวะในการย่อตัวของตลาดในช่วงปลาย 1Q23 และหาจังหวะในการเข้าซื้อ โดยเรามองไว้สามกลุ่มคือ 1) กลุ่ม Semiconductor เราชอบ ASML, NVDA, TSMC 2) Software เราชอบ MSFT, Palo Alto, Salesforce และ 3) กลุ่มธนาคารช่วงที่ ศก ผ่านจุดต่ำสุด เราชอบ BAC, JPMorgan

ตลาดยังคงตอบสนองเชิงลบต่อบริษัทที่มีมาร์จิ้นต่ำ โดย Starbucks ออกมาต่ำกว่าที่คาด ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร ผลจากธุรกิจในจีนที่อ่อนแอกว่าที่คาดเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ ขณะที่Ford ประกาศผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่คาด แม้ว่ารายได้จะดีกว่าที่คาดเล็กน้อย 2% แต่กำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาด 18% ทั้งนี้สืบเนื่องจาดอัตราการทำกำไรจากการดำเนินงานต่ำกว่าที่คาด

ผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคฯใหญ่อย่าง GOOGL AMZN AAPL ยังออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับให้ภาพ Outlook ที่ยังคงอ่อนแอ ทำให้เรามองภาพรวมกลุ่มเทคฯยังคงอยู่ในช่วงปรับประมาณการณ์ลง ประกอบกับแนวโน้มผลประกอบการที่ยังคงอ่อนแอใน 1Q23 โดยเราแนะรอจังหวะการเข้าซื้อในช่วงที่ราคาย่อตัวลงจากแรงประเด็นนี้ AMZN (~<100$), AAPL (~140$), GOOGL (90$-100$)

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5