บทสรุปสำหรับสัปดาห์ (30 ม.ค. - 3 ก.พ.)
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาพความคาดหวังต่อนโยบายการเงินที่จะตึงตัวน้อยลงและคลายความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อยลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างผสม แต่อย่างไรก็ดีตลาดฝั่งเอเชียเผชิญแรงขายทำกำไร ท่ามกลางผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด
กระแสเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ ซึ่งตราสารทุนยังมีแรงซื้อที่เร่งตัวขึ้น ในขณะที่ตราสารทุนมีกระแสเงินไหลเข้าต่อเนื่องแต่เริ่มชะลอตัวลง ตามภาพของนักลงทุนที่มีความเป็น Risk-on มากขึ้น
เศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ประกอบกับผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ที่ออกมามีทิศทางที่ชะลอตัวลงและตัวเลขชี้นำก็ยังส่งสัญญาณไม่ดีมากนักทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับประมาณการลง 1.7% โดยเฉพาะในตลาดเอเชียและตลาดสหรัฐที่ปรับลดคาดการณ์กำไรลง 2-3% ส่วนจีนและยุโรปปรับลงน้อยกว่าด้วยเหตุผลของต้นทุนพลังงานที่ลดลงและการเปิดเมืองเป็นสำคัญตามลำดับ
ภาพรวม – ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดให้ความสำคัญกับ Sentiment เชิงบวกจากท่าทีของธนาคารกลางที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ในระยะถัดไปประเด็นเหล่านี้ได้สะท้อนอยู่ราคาแล้วระดับหนึ่ง นอกจากนั้นตลาดให้ความสำคัญกับแนวโน้มผลประกอบการที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องทั้งใน 4Q22-1Q23 ดังนั้นตลาดจะกลับมามองที่แนวโน้มกำไรมากกว่าแนวโน้มดอกเบี้ย
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (6 ก.พ. - 10 ก.พ.) เตรียมติดตาม 1) Powell speech เพื่อสะท้อนทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขแรงงานในวันศุกร์ออกมาแกร่ง ขณะที่ความคาดหวังต่อ Yield ที่ลดลงตามการลดลงของเงินเฟ้อ 2) ท่าทีของ ปธน.สหรัฐในการแถลง State of the Union 3) ตัวเลขการกระตุ้น ศก ของจีน และการขายทำกำไรของหุ้น Reopening 4) ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ได้แก่ AstraZeneca, BP, CVS, L’Oreal, Linde, PayPal, PepsiCo, Philip Morris,, TotalEnergies, Toyota, Uber, Unilever, Walt Disney, Yum China, Yum Brands ทำให้เรามองว่าตลาดจะมีความผันผวนในทิศทางลบมากขึ้นทั้งนี้มองว่าผลประกอบการของสหรัฐมีแนวโน้มออกมาไม่ดีมากนัก นอกจากนั้นผลประกอบการทางฝั่งยุโรปจะออกมามากขึ้นซึ่งมีแนวโน้มไม่ได้แตกต่างไปจากทางฝั่งสหรัฐ ประกอบกับความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ดูแย่ลงในระยะสั้น โดยสัปดาห์นี้เรายังเน้นเก็งกำไรในหุ้นผลประกอบการดีใน 4Q22-1Q23 ต่อเนื่อง มองภาพข่าวเศรษฐกิจนั้นสะท้อนอยู่ในราคาแล้วระดับหนึ่งทำให้ Upside จำกัดในช่วงสั้น
หุ้นแนะนำ –เน้นหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการดีและราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม โดยเราเลือก L’Orea และ Expedia ซึ่งจะประกาศผลประกอบการและให้แนวโน้มใน 2023 ในสัปดาห์นี้