บทสรุป
ตลาดในภาพรวมทรงตัว ด้าน Powell ย้ำว่า Fed จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ แต่อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. โดยจะพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจจากตลาดแรงงานและตัวเลขเงินเฟ้อ เช่น ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งหากข้อมูลบ่งชี้ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น Fed เองก็พร้อมที่จะปรับขึ้นเช่นกัน
กระแสเงินในวันที่ 7 มี.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้มีแรงซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้เริ่มมองว่าเป็นการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนลดลงจากภาพตลาดที่ผันผวนแม้ว่า Yield จะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม เริ่มเห็น High Yield มีแรงขายอีกครั้ง 2) เริ่มมีแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นจีนและยุโรปอีกครั้งหลังตัวเลขการเปิดเมืองของจีนและราคาพลังงานในยุโรปลดลง 3) มีแรงขายใน EM และโลหะมีค่าหนาแน่นทั้งนี้มองเป็นเรื่องของทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น 4) มีแรงขายในกลุ่มGrowth มองเป็นเรื่องของผลประกอบการเป็นหลัก รวมถึงปัจจัยภายนอกที่มีความผันผวน 5) มีแรงขายในหุ้นกลุ่มการเงินจากภาพเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 1.2% และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.2% ส่วนค่าระวางเรือในแม่น้ำไรน์ปรับลดลง 17.8% ขณะที่ Credit Spread ของ IG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วน HY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4bps ด้าน CDS ปรับเพิ่มขึ้น 1.5%-1.7% DoD ขณะที่จากการการเปิดประเทศของจีนบ่งชี้ว่า 1) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ 2) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมือง จะได้ประโยชน์จากประเด็นนี้มากกว่ากลุ่มเทคโนโลยีหรือหุ้นส่งออก
โดยภาพรวมของใน Beige Book นั้นดูไม่ร้อนแรงเท่ากับตลาดแรงงานหรือภาพของเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง โดยภาพเศรษฐกิจในภาพรวมไม่ได้สดใสแต่ก็ไม่ได้มีสัญญาณของการหดตัวรุนแรง แต่ดูจากแนวโน้มก็ยังชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทำให้เรามองว่าในภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต้องเน้นไปที่บริษัทที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูงอย่าง McDonald, Starbuck, Philip Morris, P&G, Nestle รวมถึงหุ้นกลุ่ม Software อย่าง Salesforce และ Microsoft ที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q22
Costco (COST) วางแผนที่จะเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่ในประเทศจีนในวันศุกร์นี้ ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 3 ในจีน อีกทั้งมีแผนจะเปิดอีก 2 ยูนิตในปีงบประมาณ ขณะที่เรามองว่าตลาดค้าปลีกจีนในปัจจุบันค่อนข้างโตช้าและอิ่มตัวแล้ว แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่า COST ยังคงมีช่องว่างสำหรับการเติบโตเนื่องจากเป็นกลุ่มค้าปลีกที่โมเดลธุรกิจในการสมัครสมาชิกคลังสินค้าซึ่งถือว่ามีคู่แข่งที่น้อยและคนทำธุรกิจแบบนี้มีไม่มากในจีน ซึ่งจะมีเพียง Peers อย่าง Walmart ที่มีคลังสินค้า Sam's Club กว่า 40 แห่งในจีนไปแล้วก่อนหน้านี้ ประกอบกับกลุ่มท้องถิ่นเพียงไม่กี่รายเท่านั้น เช่น Yonghui membership store ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด
