เนื้อหาโดยรวม
บทสรุป |
สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ ก.พ. 67 : ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ปรับลง MoM โดยราคาข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลือง ปรับลง จากกังวลอุปทานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ อาร์เจนตินา และบราซิล อีกทั้งยังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตข้าวสาลีระดับโลกอย่างรัสเซีย ขณะที่อุปสงค์ส่งออกอ่อนแอ ส่วนราคาปาล์ม ฝ้ายและยางพารา ปรับขึ้น จากกังวลอุปทานตึงตัวจากภาวะ El Nino และมีสต๊อกต่ำ ด้านราคาเนื้อสัตว์ในประเทศปรับลงท่ามกลางอุปทานที่อยู่ในระดับสูง ส่วนราคาทองแดงและอลูมิเนียมปรับลง หลังกังวลอุปสงค์โลกชะลอตัว เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนออกมาอ่อนแอ แนวโน้มสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ มี.ค. 67 : ราคาสินค้าเกษตร อาทิ ข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลือง คาดปรับลง MoM หลังมีแนวโน้มผลผลิตเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่ดีและการแข่งขันส่งออกจากรัสเซีย ส่วนราคาปาล์มและน้ำตาลคาดปรับขึ้น MoM จากความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน (10 มี.ค.-9 เม.ย. 67) ท่ามกลางความกังวลอุปทานตึงตัว ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศคาดค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น MoM จากการควบคุมเนื้อสุกรนำเข้าผิดกฎหมายได้ดีขึ้นและการลดอุปทานตามแผนของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ส่วนราคาสินค้าโลหะคาดปรับลง MoM จากอุปสงค์โลกที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะจีน กลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรและโลหะ :แนะนำลงทุน GFPT และ BTG เนื่องจากเรามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อหุ้นกลุ่มอาหาร หลังคาดผลการดำเนินงาน 1Q67 จะฟื้นตัวดีขึ้น ด้วยแรงหนุนจากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่จะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นจากอุปสงค์ฟื้นตัว การส่งออกไก่เนื้อที่มีมากขึ้น รวมทั้งการมีมาตรการควบคุมอุปทานและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง (ส่วน CPF คาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวชัดเจนใน 2H67) ขณะที่ยังคงระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มอย่าง OSP, CBG โดยแม้ต้นทุนอะลูมิเนียมจะมีแนวโน้มลดลง แต่ปี 2567 ยังมีความเสี่ยงที่ติดตามจากต้นทุนน้ำตาลที่สูงขึ้นและกำลังซื้อในประเทศที่ยังเปราะบาง |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก อัพเดตราคาสินค้าโภคภัณฑ์_240301_T |