บทสรุป |
- สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ : เดือน มิ.ย. 66 ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวคละเคล้า โดย ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และปาล์ม ปรับขึ้น MoM จากกังวลปรากฎการณ์เอลนีโญจะกระทบต่อผลผลิตให้ตึงตัว ขณะที่น้ำตาลและฝ้าย จากกังวลอุปสงค์อ่อนแอและคาดมีผลผลิตที่ดีขึ้นในสหรัฐและบราซิล ส่วนอลูมิเนียมและเหล็กปรับลง MoM จากกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอหลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐอ่อนแอ อีกทั้งธนาคารกลางหลายแห่งยังสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง สำหรับราคาเนื้อหมูและไก่ในไทยปรับลง MoM จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมาย ขณะที่เดือน ก.ค. 66 คาดความกังวลอุปทานตึงตัวจากเอลนีโญที่จะเริ่มใน 2H66 จะหนุนให้ราคาน้ำตาลและปาล์มปรับขึ้น MoM ขณะที่ราคาถั่วเหลือง ข้าวสาลีและข้าวโพดมีโอกาสปรับลง MoM จากการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เพาะปลูกในบราซิล สหรัฐฯ แต่ต้องติดตามหากรัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงให้ส่งออกธัญพืชจากทะเลดำที่จะหมดอายุ 18 ก.ค. อาจทำให้ความกังวลอุปทานตึงตัวเกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนราคาอะลูมิเนียมคาดลดลง MoM จากกังวลอุปสงค์ชะลอแต่อุปทานเพิ่มขึ้น
- สถานการณ์ราคาพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัวได้ในเดือน มิ.ย. แรงกดดันเชิงลบมาจากภาพความกังวลการชะลอทางเศรษฐกิจโลก และการส่งออกน้ำมันจากรัสเซียที่ยังอยู่ในระดับสูง (ส่วนใหญ่มายังอินเดียและจีน) อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านบวกที่หนุนราคาให้ฟื้นขึ้นมาได้บาง เกิดจากการลดการผลิตของซาอุดิอาระเบียอีก 1MBD ในเดือน ก.ค. และอาจต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี 2566 ขึ้นกับการพิจารณาเป็นครั้งไป รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจโดยเฉพาะสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ความกังวลด้านการเติบโตชองอุปสงค์น้ำมันลดลง ค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 19.4% MoM อย่างไรก็ตามค่าการกลั่นอ้างอิง 2Q66 เฉลี่ยลดลง 49.7% QoQ อาจเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการกลุ่มโรงกลั่นในช่วง 2Q23 ที่จะประกาศในเดือน ส.ค. ราคาก๊าซฯ และถ่านหิน ยังคงอ่อนตัวในเดือน มิ.ย. แต่เริ่มมีสัญญาณบวกจากอุปสงค์ในช่วงฤดูร้อนที่เพิ่มขึ้น อุปทานก๊าซฯ ที่ลดลงในยุโรป ทำให้ราคาก๊าซฯ เริ่มฟื้นในช่วงครึ่งเดือนหลัง ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะถัดไป หากยังคงมีแนวโน้มชะลอต่อเนื่อง จะกดดันคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์ให้ลดลง อย่างไรก็ตามหากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไม่รุนแรง เชื่อว่าอุปทานจะตึงตัวขึ้นใน 2H23
- กลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำดังนี้
เนื่องจาก 2Q66 คาดกำไรปกติจะเติบโต QoQ และเติบโตได้เล็กน้อย YoY จากฐานสูง ตามส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังของ OSP ที่ดีขึ้น รวมทั้งคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นตัวหลังมีการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบ (อาทิ อลูมิเนียม) มีแนวโน้มลดลง จากนั้นจะยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ใน 3Q66 ขณะที่แนะนำระมัดระวังการลงทุนสำหรับหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF, GFPT, BTG จากราคาเนื้อสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีทิศทางอ่อนแอจากอุปสงค์ชะลอแต่อุปทานเพิ่มขึ้น ซึ่งมองจะกดดันราคาหุ้นและผลประกอบการ 1H66 ของ CPF, GFPT ให้ลดลง YoY จากมีมาร์จิ้นแคบลง เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ยังมีแนวโน้มลดลง YoY
|
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม อัพเดตราคาสินค้าโภคภัณฑ์_230703_T