บทสรุป
|
สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ เดือน ธ.ค. 66 : ราคาสินค้าเกษตรยังปรับตัวคละเคล้า MoM ตามความไม่สมดุลในภาวะอุปสงค์และอุปทาน โดยราคาข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลืองปรับขึ้น เนื่องจากกังวลอุปทานได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและยูเครนโจมตีเรือรบใหญ่ของรัสเซียในคาบสมุทรไครเมียอาจกระทบเส้นทางขนส่งธัญพืชในทะเลดำ, ราคาน้ำตาลปรับลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน หลังมีผลผลิตเพิ่มขึ้นในบราซิลและอินเดียห้ามผลิตสารเอทานอลจากน้ำอ้อย, ราคาปาล์มปรับลงจากการส่งออกของมาเลเซียที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่เป็นคู่แข่งกันลดลง, ราคาฝ้ายปรับขึ้นเล็กน้อยหลังผลผลิตได้รับความเสียหายจากการระบาดหนอนเจาะสมอฝ้ายสีชมพู ด้านราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น MoM จากอุปสงค์เพิ่มและอุปทานชะลอ ส่วนราคาโลหะปรับขึ้นจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่อง
แนวโน้มสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ เดือน ม.ค. 67 : ราคาสินค้าเกษตรและโลหะส่วนใหญ่คาดจะมีการปรับตัวดีขึ้น MoM เนื่องจากกังวลอุปทานผลผลิตจะตึงตัวจากภาวะภัยแล้ง/มีการลดกำลังการผลิตโลหะ ขณะที่อุปสงค์คาดจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะจากจีน ส่วนราคาเนื้อสัตว์ในประเทศคาดทรงตัว MoM โดยแม้มองอุปสงค์จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความกังวลด้านอุปทานใหม่ที่จะเข้ามาสู่ตลาดหลังสถานการณ์โรค ASF คลี่คลาย
กลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรและโลหะ : ช่วงสั้นเราแนะนำยังคงมุมมองระมัดระวังการลงทุน สำหรับ 1) หุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF, GFPT, BTG โดย 4Q66 คาดผลประกอบการปกติยังอ่อนแอ YoY จากมีมาร์จิ้นแคบลง โดยแม้ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน อีกทั้งยอดส่งออกยังอ่อนแอจากอุปสงค์ชะลอแต่อุปทานยังสูง และ 2) หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มอย่าง OSP, SNNP, HTC โดย 4Q66 คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวไม่มากนัก QoQ หลังยังถูกกดดันต่อเนื่องจากต้นทุนน้ำตาลที่สูงขึ้น ขณะที่ผลประกอบการปี 2567 มีโอกาสถูกกดดันจากต้นทุนค่าไฟ ต้นทุนอลูมิเนียม และต้นทุนน้ำตาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด
|
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก อัพเดตราคาสินค้าโภคภัณฑ์_240102_T |