INVX กลยุทธ์การลงทุน – อัพเดตสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์

กลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรและโลหะ : เรามีมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มอาหาร (BTG CPF GFPT TU) จากแนวโน้มส่วนต่างราคากับต้นทุนที่จะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งคาดหนุนให้ผลประกอบการของกลุ่ม 2Q67 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY โดย Top Pick เลือก  TU เพราะราคาหุ้นยัง laggard มากที่สุดในกลุ่มอาหาร ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มอย่าง OSP แนะนำหาจังหวะซื้อลงทุน หลังคาดผลประกอบการ 2Q67 จะเติบโตดีขึ้น QoQ และ YoY เช่นเดียวกัน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศและคาดได้อานิสงส์จากต้นทุนน้ำตาลลง

• สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ พ.ค. 67 : ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ปรับขึ้น MoM นำโดยราคาข้าวสาลี ยางพารา ถั่วเหลืองและข้าวโพด หลักๆ เกิดจากกังวลอุปทานตึงตัวหลังสภาพอากาศที่แปรปรวนกระทบต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วนราคาปาล์มปรับขึ้น จากมีอุปสงค์ที่ดีในอินเดียและจีน รวมถึงมีการปรับขึ้นของราคาน้ำมันพืชที่เป็นคู่แข่งกัน สวนทางกับราคาน้ำตาลที่ปรับลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังผลผลิตน้ำตาลหลายประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นและภาวะเอลนีโญกำลังจะสิ้นสุดลง 2Q67 ส่วนราคาเนื้อสัตว์ในประเทศทรงตัวสูง MoM จากการปรับตัวลงของอุปทานและตลาดส่งออกยังแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาสินค้าโลหะปรับขึ้น MoM จากอุปทานในจีนที่ลดลง ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และอุปสงค์เริ่มดีขึ้นหลังจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง
  
  
• แนวโน้มสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ มิ.ย. 67 : ราคาสินค้าเกษตร อาทิ น้ำตาล ปาล์ม และถั่วเหลือง คาดปรับลงต่อ MoM จากแนวโน้มผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และ/หรือ สต็อกโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนราคาข้าวสาลีและข้าวโพดคาดปรับลง MoM หลังล่าสุดสภาพอากาศเริ่มเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกทำให้มีความคืบหน้าในการเก็บเกี่ยวผลผลิตในรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐ ขณะที่ราคายางพาราคาดปรับขึ้น MoM โดยแม้จะเข้าสู่ฤดูกรีดยางแต่กรีดน้ำยางได้ลดลงจากผลกระทบเอลนีโญในช่วงก่อนหน้า สำหรับราคาเนื้อสัตว์ในประเทศคาดปรับขึ้น MoM จากการปรับตัวลงของอุปทานและการส่งออกที่ดี ส่วนราคาสินค้าโลหะคาดปรับขึ้น MoM จากอุปสงค์ดีขึ้นและอุปทานที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในจีน