สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจาก (1) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ลดลงต่ำกว่าคาด โดยขยายตัวที่ 3.0% ต่ำกว่าที่คาดจากฐานปีที่แล้วที่สูง การลดลงมากของราคาเชื้อเพลิง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมที่ทำให้ดัชนีเงินเฟ้อทุกตัวลดลง รวมถึงเงินเฟ้อจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบ้านที่ชะลอลง ขณะที่เงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ 4.8% ชะลอลงเช่นกัน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งของ Fed เป็นไปได้ยาก (2) รายงานเศรษฐกิจสหรัฐภูมิภาค (Fed Beige Book) ระบุกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเสี่ยงที่จะชะลอตัวในระยะถัดไป (3) เงินเฟ้อผู้บริโภคจีนไม่ขยายตัว จากคาดว่าจะขยายตัว 0.2% ส่วนเงินเฟ้อผู้ผลิตหดตัวมากขึ้นที่ -5.4% ส่งสัญญาณความเสี่ยงเงินฝืด (4) ดัชนี Caixin PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการชะลอลงมากขึ้น โดยภาคบริการอยู่ที่ 53.9 จาก 57.1 ขณะที่ภาคการผลิตอยู่ที่ 50.5 จาก 50.9 (5) การส่งออกของจีนเดือน มิ.ย. หดตัว -12.4% หดตัวมากกว่าตลาดคาดที่ -9.5% และเดือนก่อนที่ -7.5% ขณะที่การนำเข้าหดตัว -6.8% มากกว่าตลาดคาดที่ -4.0% และเดือนก่อนที่ -4.5% (6) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เรียกร้องให้มีการปฏิรูปและเปิดประเทศให้มากขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (7) ตัวเลขสินเชื่อของจีนเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยขยายตัว 11.3% ต่อปี ใกล้เคียงตลาดคาดแต่ชะลอกว่าเดือนก่อนที่ 11.4% เล็กน้อย ขณะที่สินเชื่อปล่อยใหม่ (New Yuan Loan) และสินเชื่อตามความหมายกว้าง (Total Social Financing: TSF) เพิ่มขึ้นกว่าเดือนาว่า 2 เท่า จาก 1.36 และ 1.56 ล้านล้านหยวน เป็น 3.05 และ 4.22 ล้านล้านหยวน ตามลำดับ (8) ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่สิ้นปี 2020 และมีการปรับลดลง (Revise down) 110,000 ตำแหน่งในสองเดือนก่อนหน้า ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 4.4% เท่ากับเดือน พ.ค. ขณะที่หากพิจารณารายได้เฉลี่ยต่อสัปดาห์ พบว่าปรับขึ้นเล็กน้อย จาก 3.3% ต่อปีในเดือน พ.ค. เป็น 3.7% ต่อปีในเดือน มิ.ย. ทำให้ Fed น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. (9) สหรัฐรายงานดัชนี PPI ทั่วไป มิ.ย. +0.1% ต่ำกว่าคาดที่ 0.4% และต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี บ่งชี้ความเสี่ยงเงินฝืด (10) ยอดสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเดือน พ.ค. ลดลงมาก โดยสินเชื่อรวมขยายตัว 7.2 พันล้านดอลลาร์จากปกติ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่สินเชื่อระยะยาว เช่น บ้าน รถยนต์ และเพื่อการศึกษาหดตัว 1.3 พันล้านดอลลาร์ ครั้งแรงนับจากวิกฤต Covid-19
ตลาดหุ้นโลก•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ลดลงต่ำกว่าคาด ทำให้หลายฝ่ายมองว่าโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งของ Fed เป็นไปได้ยาก ขณะที่รายงานเศรษฐกิจสหรัฐภูมิภาค (Fed Beige Book) ระบุกิจกรรมทาง ศก. โดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเสี่ยงที่จะชะลอตัวในระยะถัดไป ด้านเงินเฟ้อผู้บริโภคจีนไม่ขยายตัวส่วนเงินเฟ้อผู้ผลิตหดตัวมากขึ้น ส่งสัญญาณความเสี่ยงเงินฝืด ขณะที่ดัชนี Caixin PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการชะลอลงมากขึ้น ส่วนการจ้างงานสหรัฐ ชะลอกว่าคาดแต่ไม่ลงแรงมาก ขณะที่ค่าจ้างยังฟื้นขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ตลาดหุ้นไทย •สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นเล็กน้อย โดยยังจับตาความคืบหน้าทางการเมือง หลังสมาชิกรัฐสภาเห็นชอบ 323 เสียงให้นายพิธาเป็นนายกฯ ต่ำกว่าที่ต้องการที่ 376 เสียง โดยจะมีการโหวตครั้งต่อไปในวันที่ 19 ก.ค. ด้านกกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา กรณีถือหุ้นไอทีวี ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องหาเสียงแก้ ม.112 ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองหรือไม่ ด้าน ส.อ.ท. สภาหอฯ และ ส. ธุรกิจท่องเที่ยว ห่วงการชุมนุมกระทบท่องเที่ยวช่วง High Season ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกระบุหากรัฐบาลไม่ตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อจำเป็นต้องปรับราคาค่าขนส่งเพิ่ม 10% คาดกระทบราคาสินค้าขึ้นตาม
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ •ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. ที่ 78.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 81.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากการประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นของ OPEC+ และดอลลาร์ที่อ่อนค่า ด้านราคาทองคำ (spot) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,964.7 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน •ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนลงมาอยู่ที่ 99.64 จุด จากเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ทำให้หลายฝ่ายมองว่า Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยได้อีกเพียง 1 ครั้ง ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 138.5 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงต่อเนื่องที่ 1.12 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 34.53 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.16 หยวน
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม WealthWeekend_230714_T (2)