เนื้อหาโดยรวม
ภาพรวมตลาด ก.พ. – แนวโน้มตลาด มี.ค. | ||||||
คาด SET ในเดือน มี.ค. มองยังมีกรอบบนจำกัดบริเวณแนวต้าน 1390-1410 จุด เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยหนุน และคาดเผชิญแรงขายหลังสิ้นสุดการรายงานผลการดำเนินงานแล้ว รวมถึงการขึ้นเครื่องหมาย XD ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องช่วงเวลาในการลดดอกเบี้ยของเฟด ด้านกรอบล่างมีแนวรับบริเวณจุดต่ำเดิม 1350-1360 จุด ซึ่งดัชนีมีความเสี่ยงในการทำจุดต่ำใหม่ได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1330 และ 1300 จุด ตามลำดับ SET เดือน ก.พ. ฟื้นตัวดีขึ้นบ้างเล็กน้อย โดย SET ปรับขึ้นได้จากแรงหนุนที่ กนง. คงดอกเบี้ย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่องแต่มติไม่เอกฉันท์ ทำให้ตลาดคาดว่าอาจจะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป รวมทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าในภูมิภาคหลังได้อานิสงส์จาก PBOC ออกมาตรการกระตุ้นหนุนสภาพคล่อง ทำให้หุ้นไทยที่ยัง laggards กว่าตลาดหุ้นภูมิภาคฟื้นตัวขึ้นมาได้ที่ 1370 จุด จากจุดต่ำสุดเมื่อต้นเดือน ก.พ. ที่บริเวณ 1357 จุด SET เดือน ก.พ. ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน ที่ 2.86 พันลบ. จากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 3.09 หมื่นลบ. ขณะที่ภาพรวมกระแส fund flow เดือนนี้ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสูงถึง 10.6 พันล้านเหรียญ กล่าวคือ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ ราว 5.9, 3.4, 0.7, 0.4, 0.2 และ 0.1 พันล้านเหรียญตามลำดับ แต่ขายสุทธิตลาดหุ้นเวียดนามราว 0.1 พันล้านเหรียญ คาด SET ได้อานิสงส์ Fund Flow ไหลกลับ แม้ตลาดหุ้นไทยยังอาจมีแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ แต่ก็มีโอกาสได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ในระยะถัดไปจากอัตราเงินเฟ้อไทยที่ชะลอลงต่อเนื่อง รวมถึงธุรกรรมการชอร์ตเซลที่คาดจะกดดันบรรยากาศลงทุนน้อยลงและมีแนวโน้มที่ Fund Flow จะไหลกลับ กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ Selective Buy ใน theme ต่างๆ ดังนี้ 1) หุ้นเก็งกำไรหาก SET ฟื้นตัว ซึ่งคาดจะมีแรงซื้อกลับจากทำ Short Covering และ Fund Flow ไหลกลับ ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง 2) หุ้นปันผลเด่น Div. Yield สูงกว่า 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3) DCA ในหุ้นที่ราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง ประเด็นสำคัญในเดือนนี้ในประเทศ : 5 มี.ค. – อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.) ; 29 มี.ค. – ยอดส่งออก-นำเข้า (ก.พ.) ต่างประเทศ : 1 มี.ค. – ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิต (ก.พ.) ของสหรัฐ ; 5 มี.ค. - ดัชนี ISM PMI ภาคบริการ (ก.พ.) ของสหรัฐ ; 6 มี.ค. - การจ้างงานภาคเอกชน (ก.พ.) ของสหรัฐ ; 7 มี.ค. - ประชุม ECB ; 8 มี.ค. - การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน (ก.พ.) ของสหรัฐ ; 12 มี.ค. – อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.) ของสหรัฐ ; 14 มี.ค. – ดัชนีราคาผู้ผลิต (ก.พ.), ยอดค้าปลีก (ก.พ.) ของสหรัฐ ; 19 มี.ค. - ประชุม BoJ ; 19 – 20 มี.ค. – ประชุม Fed ; 21 มี.ค. - ประชุม BoE ; 28 มี.ค. – GDP 4Q66 ; 29 มี.ค. - ดัชนี PCE (ก.พ.) ของสหรัฐ | ||||||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก INVX Databook_March2024_T
|