เราคาดว่าผู้ประกอบการโรงแรมทุกรายภายใต้การวิเคราะห์ของเราจะรายงานผลประกอบการปกติ 1Q66 ปรับตัวดีขึ้น YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการเดินทางที่ฟื้นตัว แต่ผลประกอบการปกติจะปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากัน QoQ: AWC CENTEL และ ERW จะรายงานผลประกอบการปกติเติบโต QoQ แต่ผลประกอบการปกติของ MINT จะลดลง QoQ โดยมีสาเหตุมาจากช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรมในยุโรป เรายังคงประมาณการของเราไว้ว่ากำไรของผู้ประกอบการโรงแรมจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจาก ARR ที่ปรับตัวดีขึ้นและอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ERW เป็นหุ้นเด่นของเรา
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามเป้า จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยต่อวันในสัปดาห์ล่าสุด (17-23 เม.ย.) อยู่ที่ 71,812 คน (~67% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19) โดยได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย (21% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย), จีน (14%), อินเดีย (6%), อินโดนีเซีย (5%) และรัสเซีย (4%) จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่เร่งตัวขึ้นได้รับการสนับสนุนจากการที่จีนกลับมาเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. และเราคาดว่าแนวโน้มเช่นนี้จะดำเนินต่อไป ในช่วงวันที่ 1 ม.ค. - 23 เม.ย. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ~8 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน ~32% ของประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2566 ของเราที่ 25 ล้านคน
พรีวิว 1Q66 เราคาดว่าผู้ประกอบการโรงแรมทุกรายภายใต้การวิเคราะห์ของเราจะรายงานผลประกอบการปกติ 1Q66 ปรับตัวดีขึ้น YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการเดินทางที่ฟื้นตัวดีขึ้น แต่ผลประกอบการปกติจะปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากัน QoQ: AWC CENTEL และ ERW จะรายงานผลประกอบการปกติเติบโต QoQ แต่ผลประกอบการปกติของ MINT จะลดลง QoQ โดยมีสาเหตุมาจากช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรมในยุโรป ผู้ประกอบการโรงแรมที่น่าจะรายงานผลประกอบการปกติเติบโตอย่างแข็งแกร่ง QoQ คือ AWC (+28% QoQ จาก RevPar ที่แข็งแกร่งของกลุ่มลักชัวรี่รีสอร์ทในประเทศไทย) และ CENTEL (+28% QoQ จาก RevPar ที่แข็งแกร่งของโรงแรงในมัลดีฟส์)
กำไรปี 2566 จะเติบโตก้าวกระโดด หากไม่รวมขาดทุนปกติตามฤดูกาลใน 1Q66 ของ MINT ตัวเลข พรีวิวผลประกอบการ 1Q66 ของเราจะคิดเป็นสัดส่วน 32%, 33% และ 46% ของประมาณการกำไรเต็มปีสำหรับ AWC CENTEL และ ERW เรายังคงประมาณการของเราไว้ว่ากำไรของผู้ประกอบการโรงแรมจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2566 โดยได้รับการสนับสนุนจาก ARR ที่ปรับตัวดีขึ้นและอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เราคาดว่ากำไรปกติปี 2566 ของ AWC และ ERW จะสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 ประมาณการของเราบ่งชี้ว่าผลประกอบการของ CENTEL และ MINT จะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2567
ERW เป็นหุ้นเด่นของเรา เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และหุ้นเด่นของเรา คือ ERW (ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 5.5 บาท/หุ้น) ในฐานะที่ประกอบธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียว โดยเน้นที่ประเทศไทยเป็นหลัก ERW จึงน่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมากที่สุด และหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอันเป็นผลมาจากการดำเนินงานและผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นจะช่วยให้ความกังวลทางการเงินผ่อนคลายลง ปัจจุบันหุ้น ERW เทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 27% บ่งชี้ว่ามุมมองเชิงบวกที่ตลาดมีต่อการเปิดประเทศของไทยสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว อย่างไรก็ดี หุ้น ERW เทรดที่ EV/EBITDA ปี 2566 ระดับ 14 เท่า ต่ำกว่าระดับ 16 เท่า (+1SD) ซึ่งเป็นระดับการซื้อขายในอดีต ท่ามกลางภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เป็นบวก ซึ่งจะส่งผลดีต่อเนื่องมาถึงการดำเนินงานและผลประกอบการของ ERW (Figure 7) เราเชื่อว่าความเชื่อมั่นสูงต่อผลประกอบการที่ฟื้นตัวโดยได้แรงหนุนจากภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เป็นบวกจะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อประมาณการของเรา คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความต้องการเดินทาง การขาดแคลนแรงงาน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมไม่สามารถตอบสนองความต้องการเดินทางได้อย่างทันท่วงที และต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม TOURISM230428_T