Keyword
Company Update

ACE – หุ้นที่ทำธุรกิจสีเขียวยังได้รับความสนใจค่อนข้างน้อย – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท)

31 May 24 9:00 AM
THUMNAIL-(82)-20240912033328

แม้ว่า ACE จะมีความคืบหน้าในการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP หลังจากล่าช้ามานาน แต่ราคาหุ้น ACE ปรับตัวลดลง 4% QTD 2Q67TD มาอยู่ที่ใกล้กับระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และยังคงปรับตัว underperform SET (-2%) ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงการที่นักลงทุนยังขาดความสนใจเข้าไปลงทุนในหุ้นสาธารณูปโภคท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระดับสูงซึ่งไม่น่าจะลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ ต้นทุนทางการเงินของ ACE คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงเนื่องจากอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ของไทยโดยมี discount เล็กน้อย แม้ว่าบริษัทจะเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพียงไม่กี่รายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงบนเส้นทางสู่ net zero ของประเทศไทย เรายังคงมุมมองที่ว่านักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นต่อ ACE มากขึ้น หากบริษัทสามารถรายงานกำไรที่เติบโตได้อย่างยั่งยืนและกลับมาจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ ACE โดยให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 3.6 บาท/หุ้น

สรุปผลประกอบการ 1Q67 กำไรสุทธิ 1Q67 ของ ACE อยู่ที่ 255 ลบ. ลดลง 7.2% YoY แต่เพิ่มขึ้นแรง 54.7% QoQ เนื่องจากบริษัทพลิกมามีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 94 ลบ. ใน 1Q67 จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 110 ลบ. ใน 4Q66 กำไรปกติลดลง 37.9% YoY และ 28.6% QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน นอกจากนี้กำไรที่ลดลงของโรงไฟฟ้าขยะชุมชนยังมีสาเหตุมาจากการสิ้นสุดช่วงระยะเวลาการได้รับ adder เมื่อประกอบกับการหยุดซ่อมบำรุงตามแผน อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจึงปรับตัวลดลงเหลือเพียง 34% ใน 1Q67 จากระดับเฉลี่ย 54% ในปี 2566 อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าชีมวลก็อ่อนตัวลงสู่ 22.6% ใน 1Q67 ลดลงจาก 26.6% ใน 4Q66 ซึ่งส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงสู่ 23.8% ใน 1Q67 จาก 27.2% ใน 4Q66 กำไรที่ลดลงยังมีสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นด้วย (+50.2% YoY และ +26.1% QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากการเบิกใช้เงินกู้มากขึ้นเพื่อพัฒนาโครงการใหม่และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

คาดกำไรจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นใน 2Q67 เราคาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 2Q67 อันเป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชนหลังจากกลับมาดำเนินการตามปกติ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจะฟื้นตัวสู่ระดับ 50%+ ใน 2Q67 แม้ว่ามีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 55% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากการสิ้นสุดช่วงระยะเวลาการได้รับ adder ของโรงไฟฟ้าในจังหวัดขอนแก่น (6MW) โรงไฟฟ้า SPP Hybrid แห่งแรก (20MW) ที่จังหวัดกำแพงเพชร เริ่มดำเนินการแล้วในเดือนเม.ย.2567 ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะยังมีจำนวนน้อยมากในระยะแรกเนื่องจากต้นทุนการลงทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทและราคาวัสดุที่สูงขึ้น

ทยอยเดินเครื่องกำลังการผลิตใหม่มากขึ้นใน 2H67 โครงการโซลาร์ฟาร์มล็อตแรก (กำลังการผลิตตามสัญญา 47.5MW สำหรับ 21 โครงการ) มีกำหนดเริ่มดำเนินการภายในเดือนธ.ค. 2567 กำลังการผลิตติดตั้งของโครงการเหล่านี้จะอยู่ที่ 1.5-1.8 เท่าของกำลังการผลิตตามสัญญา โครงการเหล่านี้จะหนุนให้กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งหมดของ ACE เพิ่มขึ้นสู่ >350MW ภายในสิ้นปี 2567 (+35% YoY) เราประเมินว่าโครงการเหล่านี้จะสร้าง EBITDA ได้ที่ราว 300 ลบ./ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตในปี 2568 ACE ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสำหรับกำลังการผลิตที่เหลือส่วนใหญ่ (>280MW) ไปเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นโครงการโซลาร์ฟาร์มล็อตสุดท้าย (>20MW) ซึ่งมีกำหนดเริ่มดำเนินการภายในสิ้นปี 2570 บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนสำหรับโครงการเหล่านี้จากเงินกู้ยืมและเงินสดภายในกิจการ เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนอยู่ที่ระดับต่ำเพียง 0.3 เท่า (สิ้น 1Q67) อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการเหล่านี้จะทำให้บริษัทมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความล่าช้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดเปิดดำเนินการและกระแสเงินสดเข้ามาล่าช้า 2) ต้นทุนวัตถุดิบของโรงไฟฟ้าชีวมวลสูงกว่าคาด 3) ต้นทุนการลงทุนสูงกว่าคาด และ 4) การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและทำให้รายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้น ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ ผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจต่อชุมชนโดยรอบ รวมถึงการใช้ประโยชน์ที่ดิน และการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  ACE240531_T

Despite its progress in securing new renewable power projects and long-term power purchase agreements for VSPP biomass projects after a long delay, ACE is down 4% QTD to near record lows, still underperforming the SET (-2%) in 2Q24TD, likely reflecting dull appetite for utilities stocks amidst high interest rates, which look unlikely to come down soon. ACE’s finance cost is expected to remain high as it is pegged at a slight discount to Thai MLR despite its high growth potential as one of Thailand’s few renewable power plant operators as it strives to reach net zero. We expect confidence in ACE will rise if it can deliver earnings growth sustainably and resume dividends. We stay Neutral with DCF-based TP of Bt3.6.

1Q24 results recap. Net profit was Bt255mn, down 7.2% YoY but up 54.7% QoQ as FX loss of Bt110mn in 4Q23 turned to FX gain of Bt94mn in 1Q24. Normalized profit fell 37.9% YoY and 28.6% QoQ on the planned maintenance shutdown of biomass and MSW power plants. Profit from MSW power plants was also derailed by expiration of its adder. This plus the planned shutdown, slashed MSW gross margin to only 34% in 1Q24 from the 2023 average of 54%. Biomass power plant gross margin narrowed to 22.6% in 1Q24 from 26.6% in 4Q23, which led to a fall in overall gross margin to 23.8% in 1Q24 from 27.2% in 4Q23. High finance cost also ate into profit, rising 50.2% YoY and 26.1% QoQ on heavier loan drawdown to develop new projects and a higher interest rate.

Expect better 2Q24 operating profit. We expect core profit to improve QoQ in 2Q24 on a better gross margin for biomass and MSW power plants after they resumed normal operations. We expect MSW gross margin to recover to 50%+ in 2Q24, though remain below the average of 55% for the past three years due to the expiration of the adder for the plant in Khon Kaen (6MW). The first SPP Hybrid power plant (20MW), located in Kampangphet, started operations in April but profit contribution will remain marginal initially due to higher investment cost than expected because of the THB depreciation and higher material prices.

More capacity to kick in during 2H24. The first batch of solar farm projects (47.5MW contracted capacity for 21 projects) is scheduled to start operations by Dec 2024. The installed capacity of these projects will be 1.5-1.8x the contracted capacity, raising ACE’s total installed capacity to >350MW by end-2024 (+35% YoY). We estimate this will generate EBITDA of ~Bt300mn p.a., fueling 2025 growth. ACE has already secured power purchase agreements for all remaining capacity (>280MW) except for the last batch of solar projects (>20MW), scheduled to start up by end-2027. The company will fund these projects with loans and internal cash given its low net interest-bearing D/E of only 0.3x (end-1Q24). However, this will curtail its ability to pay dividends in the near term.

Key risks: 1) Delays in biomass VSPP construction, deferring startups and cash flow, 2) higher feedstock cost for biomass plants, 3) higher investment costs, and
4) regulatory changes that could hurt operations and increase capital expenditure. Key ESG risk is the potential negative impact of its operations on surrounding communities, including land use and MSW management.

 
Click here to read and/or download file  ACE240531_E
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5