Keyword
Company Update

GPSC - ได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ (ราคาเป้าหมาย 60 บาท)

29 May 24 9:00 AM
THUMNAIL-(80)f13b60a7-c485-4ee8-8843-30a5429c88e1-20240912005333

GPSC ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 65% ภายในปี 2569 จาก 37% ในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะเกิดจาก Avaada Energy (GPSC ถือหุ้น 43%) ซึ่งประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศอินเดีย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง CFXD ในประเทศไต้หวัน sentiment เชิงบวกจะเกิดจากการประมูลโครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการที่กำลังจะมีขึ้นในประเทศไทย เราคาดว่ากำไรของ GPSC จะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ ใน 2Q67 จากการได้รับประโยชน์จากต้นทุนก๊าซที่ลดลงและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก Avaada และ CFXD เรายังคงคำแนะนำ tactical call ระยะ 3 เดือนสำหรับ GPSC ไว้ที่ NEUTRAL โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 60 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 5.4%, terminal growth ที่ 0.5%)

มุ่งเน้นพลังงานสะอาด GPSC ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 65% (กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 6.8GW) ภายในปี 2569 จาก 37% ในปัจจุบัน และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตจากพลังงานสะอาดเป็น 15GW ภายในปี 2573 โดยส่วนใหญ่จะเกิดจาก Avaada Energy (GPSC ถือหุ้น 42.93%) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนของบริษัทในประเทศอินเดีย โดย Avaada วางแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนกำลังการผลิต 800MW (343MWe สำหรับ GPSC) ในอินเดียในปี 2567 กำลังการผลิตที่ได้รับมอบในปัจจุบันของ Avaada ที่ 13.9MW (ณ เดือนเม.ย. 2567) เกินเป้าหมายปี 2569 ที่ 11GW แล้ว ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียวางแผนเปิดประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน กำลังการผลิต 50GW ต่อปีในระยะ 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง (CFXD) กำลังการผลิต 343Mwe ในประเทศไต้หวัน ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จะช่วยขยายพอร์ตพลังงานสีเขียวของบริษัท และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบตั้งแต่ 3Q67 เป็นต้นไป

มองบวกต่อการประมูลโครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการที่กำลังจะมีขึ้นในประเทศไทย GPSC มีมุมมองเชิงบวกต่อการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่กำลังจะมีขึ้นในประเทศไทย ได้แก่: 1) การประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟสที่ 2 กำลังการผลิต 3.6GW และ 2) แผน PDP2024 ฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยอีก 30-40MW เป็น 50% ภายในปี 2580 เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสีเขียวในอนาคต ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่าร่างแผน PDP2024 จะเปิดประชาพิจารณ์ในเดือนมิ.ย. 2567 จากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และครม. เพื่อขอความเห็นชอบใน 4Q67 ปัจจัยเหล่านี้น่าจะสร้าง sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มสาธารณูปโภคไทย จากการศึกษาของเราพบว่าราคาหุ้นสาธารณูปโภคไทยส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นพร้อมกับการประมูลโรงไฟฟ้าสองครั้งที่ผ่านมาในแผน PDP2018 (ประชาพิจารณ์เดือนธ.ค. 2561) และการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟสแรก กำลังการผลิต 5GW (ก.ย. 2565)

ได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซในประเทศไทย คณะกรรมการกำกับพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศใช้ระบบ single pool gas price โดยนำเอาราคาก๊าซระดับต่ำที่ส่งไปให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมาคำนวณ pool gas รวม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนก๊าซของ SPP ลดลง 5-7 บาทต่อล้านบีทียู จากฐานปัจจุบัน นอกจากนี้ กกพ. ยังเห็นชอบให้ลดอัตราค่าบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับผู้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในกลุ่มโรงไฟฟ้าลงจาก 11.48 บาท สู่ 5.47 บาทต่อล้านบีทียู สำหรับปี 2567-2571 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้มาร์จิ้นของโรงไฟฟ้า SPP ปรับเพิ่มขึ้นได้ 6.01 บาทต่อล้านบีทียู แต่โรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นของ GPSC จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 2 บาทต่อล้านบีทียู ดังนั้นต้นทุนก๊าซโดยรวมของ GPSC คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยใน 2Q67 เมื่อเทียบกับ 1Q67 ซึ่งอยู่ที่ 362 บาทต่อล้านบีทียู

แนวโน้มปี 2567 จะได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซที่ลดลง เราคาดว่าโมเมนตัมกำไรปกติของ GPSC จะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ ใน 2Q67 ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนก๊าซที่ลดลงจากปริมาณก๊าซที่เพิ่มขึ้นในอ่าวไทยและการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ เรามีมุมมองที่เป็นกลางต่อแนวโน้มระยะกลางของมาร์จิ้นธุรกิจ SPP เนื่องจากการที่รัฐบาลต้องการลดค่าไฟฟ้าของประเทศไทยลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.0 บาท/kWh จากปัจจุบันที่ 4.18 บาท/kWh จะเป็นตัวจำกัดมาร์จิ้นของธุรกิจ SPP นอกจากนี้ราคา LNG Japan/Korea Platt future ที่เพิ่มขึ้น 25.3% ใน 2Q67TD สู่ US$11.9 ต่อล้านบีทียู จะทำให้มาร์จิ้นของธุรกิจ SPP มี upside จำกัดใน 3Q67

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ต้นทุนเชื้อเพลิง/ก๊าซสูงกว่าคาด การเลื่อนปรับค่า Ft ผลตอบแทนจากโครงการลงทุนใหม่ต่ำกว่าคาด และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  GPSC240529_T

GPSC targets its renewable energy portfolio to reach 65% by 2026 from 37% now, largely via Avaada Energy (GPSC holds 43%) in India and CFXD in Taiwan. Sentiment will be lifted by two upcoming power bids in Thailand. We expect GPSC’s earnings to improve YoY and QoQ in 2Q24 from the benefit of lower gas cost and more contribution from Avaada and CFXD. We maintain our 3-month tactical rating of Neutral with a target price of Bt60 based on DCF valuation (WACC of 5.4%, terminal growth of 0.5%). 
Focus on clean energy. GPSC plans for its renewable energy portfolio to reach 65% (6.8GW committed equity capacity) by 2026, up from 37% (2.5GW) currently, reaching 15GW of clean energy capacity by 2030. Key to this is Avaada Energy (GPSC holds 42.93%) in India. Avaanda plans to bring 800MW (343MWe for GPSC) in renewable energy projects in India on line in 2024; its current awarded capacity of 13.9MW (as of April 2024) has already surpassed its 2026 target of 11GW. Note that India’s government plans to put 50GW per year renewable energy up for bid over the next five years. Also underwriting its green energy portfolio is CFXD’s 343MWe of offshore wind power projects in Taiwan, expected to be fully operational from 3Q24.


Optimistic on two upcoming power bids in Thailand. GPSC is optimistic about two upcoming renewable energy auctions in Thailand: 1) the second phase of 3.6GW renewable power, and 2) the new PDP2024, which is expected to add 30-40GW of new renewable capacity to bring green energy to 50% of all Thailand’s power generation by 2037. The Permanent Secretary of the Mistry of Energy says the draft of the PDP2024 will open for public hearings in June, with the draft then sent to the NEPC and cabinet in 4Q24. Progress will provide an impetus to the Thai utilities sector. A look back shows shares of most Thai utilities rose with the PDP2018s (public hearings Dec 2018) and the first phase of 5GW renewable power bidding (Sep 2022).   

Benefit from the restructure of gas price in Thailand. The Energy Regulation Commission (ERC) has implemented a single-pool gas price system by blending the low gas price for petrochemical producers in Thailand with the average pool gas price. This is expected to reduce SPP's gas costs by Bt5-7/mmBTU from current baseline. ERC also approved a decrease in service rates to Bt5.47/mmBTU from Bt11.48 for natural gas licensees in the power sector for 2024-28, effective March 2024. This will widen SPP’s margin by Bt6.01/mmBTU but raise costs for GPSC’s cogeneration power plant by ~Bt2/mmBTU. The net effect will be to reduce GPSC's overall gas cost slightly in 2Q24 from 1Q24’s Bt362/mmBTU.

2024 outlook to benefit from lower gas cost. We expect GPSC’s core earnings to improve YoY and QoQ in 2Q24 on the back of lower gas costs due to higher gas flow in the Gulf of Thailand and the restructure of gas prices. We take a neutral stance on the medium-term outlook for SPP margin as the government's agenda is to reduce the country's electrical tariff to below Bt4.0/kWh from the current Bt4.18/kWh, capping SPP margins. The 25.3% rise in 2Q24TD in LNG Japan/Korea Platt futures to US$11.9/mmBTU could also limit SPP margin upside in 3Q24.  

Key risks: Higher than expected fuel/gas cost, delays in Ft adjustment, lower return on new investments and regulatory changes regarding GHG emissions. Key ESG risk is the environmental impact from its exposure to fossil fuels.

Click here to read and/or download file  GPSC240529_E

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5