ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  10. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

TU – เข้าสู่ระยะเติบโต – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 18 บาท)

blog_list_heading
InnovestX Research
07 มิ.ย. 2567;
347
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

เราเชื่อว่ากำไรของ TU ผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้วใน 1Q67 และจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2Q67 โดยจะเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และ YoY จากยอดขายที่เติบโตดีขึ้นอันเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและเงินบาทที่อ่อนค่า ประกอบกับมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นนำโดยธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (ต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าที่แท้จริงลดลงท่ามกลางราคาผลิตภัณฑ์ OEM ที่ดีขึ้น) ตามมาด้วยธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และแรงหนุนจากการไม่มีผลขาดทุนจาก Red Lobster แผนการปรับธุรกิจ (เริ่มใน 2H67) จะช่วยหนุนให้ยอดขายและมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้ หลังจากซื้อหุ้นคืนมาแล้ว 137 ล้านหุ้นที่ต้นทุนเฉลี่ย 14.7 บาท/หุ้น ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. บริษัทมีหุ้นที่สามารถซื้อคืนอีก 63 ล้านหุ้นจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งจะช่วยพยุงราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลดลง เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ TU โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 18 บาท อ้างอิง PE 16 เท่า (PE เฉลี่ย 10 ปี)

การดำเนินงาน 2Q67TD ปรับตัวดีขึ้น ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ราคา spot ปลาทูน่าท้องแถบปรับตัวลดลง 23% YoY สู่ US$1,371/ตัน (เทียบกับ US$1,784/ตัน ในปี 2566) ขณะที่ใน 2Q67TD ราคา spot ปลาทูน่าท้องแถบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 7% QoQ จากการจับปลาได้ลดลง สู่ US$1,428/ตัน TU คาดว่าราคาจะปรับขึ้นอีกใน 2H67 จากปัจจัยฤดูกาล แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ที่ไม่เกิน US$1,700-1,800/ตัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาขายผลิตภัณฑ์ทูน่าประเภทรับจ้างผลิต (OEM) ภายใต้สัญญาระยะสั้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน ราคาขายผลิตภัณฑ์ทูน่าแบรนด์ภายใต้สัญญาระยะยาวมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับทรงตัวหรือลดลงในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ YoY ในปี 2567

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q67TD จะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ นำโดยธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปจากราคาผลิตภัณฑ์ OEM ที่ปรับตัวดีขึ้นท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าที่ลดลง (มีสต๊อกอยู่ในมือราว 5 เดือนโดยเฉลี่ย) และส่วนหนึ่งเกิดจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (สัดส่วนการขายดีขึ้นโดยมีปริมาณการขายผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลงผ่านทางการปรับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์) และธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง (ลดขนาดธุรกิจค้ากุ้งล็อบสเตอร์และปลาที่มีมาร์จิ้นต่ำในสหรัฐฯ) ใน 2Q67TD เงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโรอ่อนค่าลง 5-6% YoY และ 2-3% QoQ เงินบาทที่อ่อนค่าและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป จะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายของ TU เติบโต YoY และ QoQ ใน 2Q67

คงเป้าหมายปี 2567 TU คงเป้าหมายปี 2567 ไว้เหมือนเดิม โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโต 3-4% YoY (เทียบกับ +2% YoY ใน 1Q67) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17-18% (เทียบกับ 17.1% ในปี 2566 และ 17.3% ใน 1Q67) โดยตั้งเป้าพัฒนาการเชิงบวกจะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2567 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. Red Lobster ได้ยื่นเรื่องขอฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎหมายล้มละลายมาตราที่ 11 ในสหรัฐฯ และดำเนินการหาผู้ซื้อต่อไป โดย TU เชื่อมั่นในความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบ สำหรับการทำธุรกรรมที่ผ่านมากับ Red Lobster ภายใต้เงื่อนไขเสมือนทำรายการกับบุคคลภายนอก (arm’s length basis) ในด้านการดำเนินงาน หลังจากปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน Red Lobster เป็นศูนย์ตามหลักความระมัดระวังใน 4Q66 แล้ว TU จะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ Red Lobster อีกต่อไป TU มองว่าการยื่นเรื่องขอฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎหมายล้มละลาย จะช่วยให้กระบวนการขาย Red Lobster ทำได้เร็วขึ้น โดยจะเห็นความคืบหน้าใน 2H67 TU ใช้สมมติฐานตามหลักความระมัดระวังว่าจะไม่มีกำไรจากการขายสำหรับในธุรกรรมนี้

ประกาศเป้าหมายปี 2573 เมื่อมองต่อไปถึงปี 2573 TU ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5-10% ต่อปี จากการขยายฐานลูกค้าเดิม/ใหม่ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง การเน้นผลิตภัณฑ์แบรนด์ในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมากขึ้น การขยายตลาดในธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และการเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ ในหน่วยธุรกิจส่วนประกอบอาหาร (ingredients) โดยที่ยังไม่รวมการทำ M&A ซึ่งจะเน้นไปที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ TU ที่ช่วยเพิ่มผลกำไร บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับสูงกว่า 20% จากการมีผลิตภัณฑ์/ธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการนำระบบอัตโนมัติมาใช้มากขึ้น แผนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจซึ่งจัดทำโดยที่ปรึกษาอิสระและวางแผนที่จะเริ่มดำเนินการใน 2H67 จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายระยะยาวได้

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: แรงกดดันเงินเฟ้อ และการแข็งค่าของเงินบาท ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย และน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ยังยืน (E) นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน (S)

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก TU240607_T

We believe TU’s earnings bottomed in 1Q24 and will strengthen in 2Q24F, up QoQ on seasonality and YoY on better sales growth from higher sales volume and weak THB together with wider margin, led by the ambient unit (lower actual tuna raw material costs amid better OEM product price), followed by the pet care and frozen units, and aided by no loss from Red Lobster. Business transformation starting in 2H24F will help lift LT sales and margin. After repurchasing 137mn shares at an average cost of Bt14.7/share since Feb 20, it has 63mn shares it can repurchase until June 30, protecting against share price downside. We maintain Outperform with an end-2024 TP of Bt18 based on 16x PE (10-year average PE).

Improving 2Q24TD operations. In 5M2024, spot skipjack tuna price fell 23% YoY to US$1,371/ton (vs US$1,784/ton in 2023). In 2Q24TD, spot skipjack tuna price edged up 7% QoQ on lower catches to US$1,428/ton. TU expects prices to rise further in 2H24F on seasonality, but still be manageable at not over US$1,700-1,800/ton. This will be positive for its OEM tuna selling prices under short term contracts. Branded tuna selling prices under long-term contracts are expected to be stable or down in the low single digits YoY in 2024F.

This leads us to expect gross margin in 2Q24TD to improve YoY and QoQ, led by the ambient unit from better OEM prices amid lower tuna raw material costs (5-month inventory on average) and the pet care unit (more favorable sales mix with more high-margin premium product sales volume from lower product price via an adjustment in product ingredients) and the frozen food unit (downsizing low-margin lobster and fish trading business in the US). In 2Q24TD, the Thai baht has depreciated 6% YoY and 3% QoQ against the US dollar and 5% YoY and 2% QoQ against the euro. The weak THB and higher sales volume in the ambient and pet care units in the US and Europe will boost TU’s sales YoY and QoQ in 2Q24.

2024 target maintained. TU keeps its 2024 guidance for sales growth at 3-4% YoY (vs +2% YoY in 1Q24) and gross margin at 17-18% (vs 17.1% in 2023 and 17.3% in 1Q24), targeting sales and margin improvement to accelerate for the rest of 2024. On May 20, Red Lobster filed for Chapter 11 bankruptcy protection, continuing the process to find a buyer. TU believes it has maintained business transparency and verifiability in past transactions with Red Lobster on an arm’s length basis. After conservatively adjusting the value of TU’s investment in Red Lobster to zero in 4Q23, TU will no longer have to record losses/expenses related to Red Lobster. TU views that the filing for Chapter 11 will help to hasten the sale of Red Lobster, with progress to be seen in 2H24. TU conservatively assumes no gain from the sale.

2030 targets released. Looking into 2030, TU targets its sales growth of 5-10% p.a. on expansion of existing/new customers in the pet care unit, more focus on branded business in the ambient unit, market expansion in the frozen unit and more new businesses in the ingredient unit. This does not include M&As, that will focus on related businesses and be earnings accretive. It plans for gross margin to be above 20% from more high-margin products/businesses, cost optimization and greater automation. Its business transformation plan, prepared by an independent advisor and planned to begin in 2H24F, will help it to achieve LT targets.

Key risks: Inflationary pressure and THB appreciation. Key ESG risks are energy, waste & water management, sustainable products (E), health & safety policies (S).

 
Click here to read and/or download file  TU240607_E

กลับด้านบน